วันที่ 5 มิ.ย. 2565 ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ จ.สุรินทร์ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะหรือ ‘จ่าประสิทธิ์’ อดีต ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กับ ‘วอยซ์’ ถึงอนาคตทางการเมืองและการกลับสู่การเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยว่า แม้ว่าที่ผ่านมาตนถูกตัดสิทธิทางการเมือง และถูกดำเนินคดีหลังการรัฐประหารรวม 2 คดี แต่อุดมการณ์ทางการเมืองของตนยังอยู่กับพรรคเพื่อไทย และคนเสื้อแดง สำหรับการเลือกตั้งใหญ่ในอนาคตนั้นหลังได้พูดคุยกับผู้ใหญ่ในพรรคตนได้ส่งชื่อ ‘ดวงฤทัย ไชยศรีษะ’ บุตรสาวของตนเองในวัย 25 ปีมีคุณสมบัติลงส.ส.ได้ เพราะจบการศึกษาทั้งปริญญาตรีและปริญญาโท ให้พรรคเพื่อไทยพิจารณาส่งเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สุรินทร์ เขตเลือกตั้งเดิมที่ตนเคยเป็น ส.ส. เมื่อปี 2554 ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาคุณสมบัติของผู้ใหญ่ในพรรค

ถามว่ายังมั่นใจคะแนนนิยมของตนเองในพื้นที่หรือไม่ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ยืนยันว่ามีความมั่นใจเต็มที่ว่าจะสามารถทวงคืนเก้าอี้ได้ เพราะประชาชนในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ต่างชื่นชมตนและนโยบายของพรรคเพื่อไทย ดังนั้นถ้ามีโอกาสลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรคเพื่อไทย ยังมั่นใจว่าชนะแน่นอน

สำหรับผลกระทบจากการถูกดำเนินคดี จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ยืนยันว่าไม่มีผลกระทบ เพราะประชาชนในพื้นที่ต่างเห็นใจเนื่องจากเข้าใจสถานการณ์ ว่าการยึดอำนาจรัฐประหารที่ผ่านมาคือการแสวงหาผลประโยชน์ทางการเมืองของฝ่ายเผด็จการ

“ดังนั้นคนในพื้นที่มีแต่คนเมตตาสงสาร มีแต่คนรักโดยเฉพาะถ้าอยู่กับพรรคเพื่อไทย รับรองได้เลยว่าได้รับการสนับสนุนแน่นอน เพราะตอนนี้ทุกคนได้รับผลกระทบโดยตรงทั้งเรื่องเศรษฐกิจ จากที่ผมลงพื้นที่ทุกคนต่างแสดงออกว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่ไหวแล้ว อยากจะเปลี่ยนให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ อยากให้ อุ๊งอิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทยและหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะความเชื่อมั่นในศักยภาพของอุ๊งอิ๊งค์ อย่างน้อยที่สุดคือเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของ นายกฯทักษิณ ชินวัตร” จ.ส.ต.ประสิทธิ์ กล่าว

โดยระหว่าง จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์นั้น ‘ดวงฤทัย’ ได้แนะนำตัวต่อผู้สื่อข่าวและประกาศจุดยืนว่า จะเดินตามอุดมการณ์ที่บิดายึดมั่น เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้ประชาชน และนำประเทศกลับสู่ระบอบประชาธิปไตย