หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศมาตรการระยะที่ 3 ที่มีมาตรการพักชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยให้กับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก (เอสเอ็มอี) เป็นเวลา 6 เดือน (เม.ย.-ก.ย.2563) เมื่อวันที่ 7 เม.ย. ที่ผ่านมา ล่าสุด ธนาคารกรุงศรีอยุธยาและธนาคารกรุงเทพตอบรับและบังคับใช้นโยบายดังกล่าวแล้ว
มาตรการที่ทั้ง 2 ธนาคารนำมาใช้ คือ การพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยโดยอัตโนมัติ เป็นระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่ 1 เม.ย. ถึง 30 ก.ย.2563 สำหรับลูกหนี้ที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 100 ล้านบาท และจะไม่เสียประวัติข้อมูลเครดิต
ขณะที่มาตรการสนับสนุนสินเชื่อใหม่ (ซอฟต์โลน) จะเป็นการกู้เพื่อเสริมสภาพคล่อง วงเงินสินเชื่อใหม่ไม่เกินร้อยละ 20 ของยอดหนี้คงค้างของลูกหนี้ ณ สิ้นเดือน ธ.ค.2562 โดยธนาคารจะคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ผ่อนปรนพิเศษร้อยละ 2 ต่อปี ในช่วง 2 ปีแรก ทั้งยังไม่คิดดอกเบี้ยในช่วง 6 เดือนแรกด้วย แต่การจะเข้าเกณฑ์นี้ลูกหนี้ต้องอยู่ในสถานะผ่อนชำระปกติ คือไม่ได้อยู่ในสถานะค้างชำระเกิน 90 วัน (หรือเป็นหนี้เสียแล้ว)
นายสยาม ประสิทธิศิริกุล ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจ SME ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า ธนาคารเล็งเห็นความสำคัญของเอสเอ็มอีที่มีต่อเศรษฐกิจไทย และต้องการช่วงแบ่งเบาภาระผู้ประกอบการด้วยมาตรการช่วยเหลือดังกล่าว
ขณะที่นายสุวรรณ แทนสถิตย์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงเทพพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลและให้ความช่วยเหลือลูกค้าผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยให้การสนับสนุนมาตรการเพิ่มเติมของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อช่วยลูกค้าผู้ประกอบการให้มีเงินทุนและสภาพคล่องเพียงพอในการดำเนินธุรกิจและรักษาการจ้างงานต่อไป
อีกทั้งระหว่างการใช้ 2 มาตรการดังกล่าว ธนาคารยังพร้อมให้คำปรึกษาแนะนำลูกค้าผู้ประกอบการอย่างใกล้ชิด ทั้งในการปรับโครงสร้างหนี้ ปรับแผนการผ่อนชำระหนี้ให้สอดคล้องกับรายได้ และช่วยจัดโครงสร้างทางการเงินที่เหมาะสมกับธุรกิจของลูกค้าผู้ประกอบการเพิ่มด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :