เมื่อเวลา 18.00 น. ที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศขาเข้า ประตู 7 มีประชาชนซึ่งเป็นกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่มารอต้อนรับเพื่อให้กำลังใจ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่เดินทางกลับมาถึงประเทศไทยหลังจากการศึกษาดูงานหลายประเทศในยุโรป เพื่อเตรียมชี้แจงข้อกล่าวหาภายหลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติแจ้งข้อกล่าวหาตามมาตรา 98(3) ของรัฐธรรมนูญ กรณีถือครองหุ้นบริษัทวี-ลัค มีเดีย จำกัด ซึ่งอาจเข้าข่ายลักษณะต้องห้ามการลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งนายธนาธรจะต้องชี้แจงข้อหาใน 7 วัน
โดยทันทีที่นายธนาธร เดินทางมาถึงบริเวณประตู 7 อาคารผู้โดยสารขาเข้าเมื่อเวลา 20.00 น. กลุ่มผู้สนับสนุนต่างตะโกนเรียกนายธนาธร พร้อมมอบดอกไม้ให้ โดยมี น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค นายคารม พลพรกลาง ว่าที่ส.ส.บัญชีรายชื่อ ร่วมต้อนรับ ขณะที่กลุ่มผู้สนับสนุนได้ชูป้ายสนับสนุน เช่น พรรคเรา 6,265,950 เสียงทั่วประเทศ #StandWithThanathon ทั้งยังชูสามนิ้วสัญลักษณ์ต่อต้านเผด็จการ และกรี๊ดตะโกนเชียร์ธนาธรสู้ๆ ดังกึกก้องบริเวณ
นายธนาธร ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่ากำลังใจพรรคยังดี แม้กกต.จะแจ้งข้อหากรณีถือหุ้นนั้น ตนขอดูเอกสาร กกต.ก่อน ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดพรุ่งนี้ (26 เม.ย.) จะติดต่อไปที่ กกต. ทั้งนี้ที่ผ่านมายังไม่ได้ถูกเชิญไปชี้แจง แต่มีการส่งหนังสือมายังนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดาตน ทำให้ทนายต้องเข้าไปชี้แจงในฐานะนางสมพร ซึ่งครั้งนี้ตนจะชี้แจงเป็นครั้งแรกด้วยตนเอง ไม่กังวลไม่ได้ทำอะไรผิด กระบวนการโอนหุ้นทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมายเรียบร้อยตั้งแต่ต้นเดือน ม.ค. แล้ว
นายธนาธร ระบุว่า ต้องให้กำลังใจ กกต. มีเจ้าหน้าที่ กกต. หวังดีต่อประเทศอยากเห็นประเทศเดินไปข้างหน้า หวังว่ากกต.จะมองเห็นว่าการทำหน้าที่บริสุทธิ์จะนำประเทศไปสู่ทางออกได้ แต่ถ้า กกต.ทำงานไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม สร้างข้อกังขาให้กับประชาชนเมื่อไร นั่นจะนำไปสู่ความวุ่นวาย
ส่วนกรณีมีกระแสข่าวจะแจกใบส้มตนนั้น มั่นใจว่าใบส้มบังคับใช้กรณีของตนไม่ได้
เมื่อถามถึงข้อสังเกตว่านายธนาธรเดินทางจาก จ.บุรีรัมย์กลับมากรุงเทพฯ ในวันที่ 8 ม.ค. เพื่อมาโอนหุ้นไม่ทันนั้น นายธนาธร ระบุว่า ไม่มีใครมีหลักฐานว่าตนอยู่ที่ไหนในช่วงบ่าย ซึ่งถ้าตนหาเสียงอยู่ จ.บุรีรัมย์ช่วงบ่ายต้องมีภาพหลุดหรือมีการอัดคลิปวิดีโอมาเผยเเพร่แล้ว ตนยืนยันกระบวนการทุกอย่างเป็นไปตามชี้แจง
ส่วนที่ส่งผู้สมัครขาดคุณสมบัติ ส.ส. นั้นนายธนาธร ระบุว่า พรรคมีผู้สมัคร 500 คน ไม่สามารถรู้ได้ว่าผู้สมัครมีประวัติอะไรบ้าง เชื่อว่าหัวหน้าพรรคอื่นก็เป็นเหมือนกัน เชื่อว่าคำวินิจฉัย กกต.จะไม่ออกมาในทางลบและไม่มีข้อหาเพื่อเอาผิดตนได้
“ผมเชื่อว่าเรื่องนี้มีแรงกดดันทางการเมืองเข้ามาที่กกต. จะเห็นได้ว่าประธานอนุกรรมการที่สอบสวนเรื่องผมก็ได้ลาออก ผมไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นของธนาธร แต่ผมเชื่อว่าคนที่มารวมอยู่ที่แห่งนี้สนามบินสุวรรณภูมิ คนที่ให้กำลังใจธนาธรทั่วประเทศไทยไม่ได้ให้กำลังใจธนาธร แต่ให้กำลังใจประชาธิปไตย ให้กำลังใจความเป็นธรรมต้องการเห็นประชาธิปไตยต้องการเห็นความเป็นธรรม คนที่มาที่นี่มารักษาประชาธิปไตย”
นายธนาธร ระบุว่า ในวันพรุ่งนี้ (26 เม.ย. ) ต้องนัดวันกับ กกต. ว่าจะเดินทางไปชี้แจงกับ กกต. เมื่อไร ส่วนการที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องของกกต. ให้ตีความสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อนั้น เห็นว่า การเลือกวิธีการคำนวณ ส.ส. ของ กกต. อาจส่งผลต่อทิศทางการพัฒนาประเทศได้ ดังนั้นการตัดสินใจของ กกต.ต้องยึดหลักการที่ถูกต้อง
นายธนาธรให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเป็นเวลา 10 นาทีก่อนออกวงล้อมสื่อมวลชนไปยืนปรบมือให้กับกลุ่มผู้สนับสนุนที่มาให้กำลังใจโดยนายธนาธร ระบุว่า "ทุกท่านขอบคุณมากๆ ที่มาให้กำลังใจ ผมขอบอกว่าอย่าให้เรื่องนี้เป็นเรื่องของธนาธร เรามาที่นี่วันนี้ไม่ใช่เป็นการทำเพื่อปกป้องธนาธร แต่เป็นเรื่องความยุติธรรม เรามาที่นี่มาปกป้องประชาธิปไตย เป็นเรื่องความเป็นธรรมของสังคม"
จากนั้นกลุ่มผู้สนับสนุนต่างตะโกนให้กำลังใจนายธนาธรเสียงดังลั่นอาคารผู้โดยสารขาเข้า
ขณะที่ก่อนหน้านี้ ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ เปิดเผยว่า นายธนาธร จะเดินทางเข้าชี้แจงข้อกล่าวหากรณี ถือครองหุ้นบริษัทวี-ลัค มีเดีย จำกัด เข้าข่าย เป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามรับสมัคร ส.ส. หรือไม่ ต่อ กกต. ด้วยตัวเอง โดยคาดว่าจะเดินทางไปในวันที่ 29 เม.ย.นี้ช่วงบ่าย เพื่อให้ทันตามกรอบเวลาที่กำหนด ทั้งนี้ไม่กังวลกับข้อกล่าวหาต่างๆ เพราะเชื่อว่าไม่มีมูลความผิด
“แต่ก็มีการพูดคุยกันไปถึงว่าจะได้ใบส้ม หากได้ใบส้มจริงๆ ก็ไม่มีเป็นไร นายธนาธร ยินดีทำหน้าที่อยู่นอกสภา ซึ่งเชื่อว่ามีงานอื่นให้ทำอีกมาก แต่ตอนนี้ต้องต่อสู้เพื่อยืนยันเสียงของประชาชนที่สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่ให้ดีที่สุด”
โฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าวอีกว่า พรรคอนาคตใหม่จะจัดประชุมใหญ่สามัญ ระหว่างวันที่ 26-27 เม.ย.นี้ และจะมีการอบรมว่าที่ ส.ส. ครั้งที่ 2 เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสภา