ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดนยกเลิกงานหลายงานกันถ้วนหน้า เคยมีรายได้เป็นกอบเป็นกำตอนนี้เป็นศูนย์ ทำให้ศิลปินนักร้องลูกทุ่งต้องรีเซตตัวเองใหม่ไม่ต่างไปจากอาชีพอื่น แม้ค้นพบช่องทางทำกินต่อลมหายใจ ปรับตัวอยู่ได้กับวิกฤตที่กระจายทั่วโลก แต่ก็ยังไม่สามารถสลัดความกังวล อนาคตจะเป็นอย่างไร? ตราบใดที่ยังไม่สัญญาณว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง และมองว่าอาจส่งผลกระทบกินเวลาเป็นปี
ใบปอ รัตติยา ศิลปินสาวชาว จ.นครราชสีมา ที่ได้ฉายา 'ราชินีรถแห่' บอกกับ วอยซ์ออนไลน์ ว่า ถ้าหากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ลากยาวเป็นปีไม่สามารถไปแสดงคอนเสิร์ตได้ การใช้ชีวิตต้องพบกับความลำบากเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน เพราะอาชีพศิลปินนักร้องไม่มีเงินเดือนประจำ อยู่ได้ด้วยรายได้จากการแสดงคอนเสิร์ตเป็นหลัก ตั้งแต่งานโดนยกเลิกไปจนไม่เหลือ นำเงินเก็บออกมาใช้จ่ายดูแลครอบครัวใกล้จะหมดเต็มที
แม้มีรายได้จากการที่เจ้าของผลิตภัณฑ์จ้างไลฟ์เฟซบุ๊กรีวิวสินค้า แต่ก็ไม่เพียงพอเนื่องจากมีรายจ่ายมากไม่สมดุลกับรายรับ ทำให้ต้องคิดหาแผนรับมือระยะยาว เพราะเชื่อว่าในอนาคตแม้สถานการณ์การแพร่ระบาดยุติแล้ว ก็ยังต้องใช้เวลาฟื้นฟูอีกหลายด้าน กว่าทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทาง
“เข้าใจสถานการณ์นะคะว่าทุกคนได้รับผลกระทบ แต่ถ้าอีกสองเดือนเหตุการณ์ยังเป็นแบบนี้ลำบากเลยค่ะ เพราะปอตัดสินใจสร้างบ้านใหม่ให้กับคุณพ่อคุณแม่ก่อนที่สถานการณ์นี้เกิดขึ้น ตอนนี้ก็กำลังสร้างทุกอย่างต้องดำเนินต่อไป เหมาช่างไปแล้วทุกอย่างหยุดไม่ได้ หยุดก็ต้องจ่ายบานปลายออกไปอีก รายจ่ายเยอะมาก ก่อนโควิดมามีงานเดินสายคอนเสิร์ตต่อเนื่องก็จริง แต่กว่าจะเก็บเงินได้ต้องใช้เวลา เพราะก่อนปอมีชื่อเสียงครอบครัวก็มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ค่อนข้างลำบาก มีหนี้สินให้เคลียร์พอสมควรก่อนตั้งหลักเก็บเงินได้ ตอนนี้เงินเก็บร่อยหรอไปมากเพราะรายจ่ายกับรายได้มันไม่สมดุลกัน ที่บ้านตอนนี้ก็ปลูกผักปลูกหญ้าเสริมจากของเดิม เพื่อรองรับสถานการณ์ที่อาจยืดเยื้อยาวนาน อย่างน้อยก็ไม่ต้องเสียเงินไปซื้อผักมาประกอบอาหารช่วยทุ่นค่าใช้จ่าย ช่วงที่ไม่มีคอนเสิร์ตก็เอาภาพบรรยากาศที่เคยร้องเพลงบนรถแห่มาตัดลงยูทูบ และก็สร้างผลงานใหม่แบบเบื้องหลังการใช้ชีวิตของใบปอให้แฟนๆ ได้ดู เป็นการเลี้ยงชื่อเราไว้ไม่ให้หายไปจากแฟนเพลง ถ้าเป็นไปได้อยากให้เหตุการณ์นี้ผ่านไปเร็วๆ ไม่อยากให้ยืดเยื้อเพราะกระทบต่อหลายคนหลายภาคส่วน หลังจากยุติแล้วก็ต้องใช้เวลาฟื้นฟูอีกนานกว่าอะไรจะเข้าที่เข้าทาง”
ลำเพลิน วงศกร ศิลปินหนุ่มเจ้าของเสียงร้องเพลง ‘รำคาญกะบอกกันเด้อ’ ที่ได้ฉายา ‘โอปป้าหมอลำ’ บอกว่า ท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 ที่ไม่มีใครสามารถให้คำตอบได้ว่าจะยุติเมื่อไหร่ เขาเลือกกลับไปทำเพลงแบบเก่า สมัยที่ยังไม่เข้ามาโลดแล่นในวงการฯ สร้างสรรค์ผลงานลงช่องยูทูบของตนเอง เพื่อพยุงกระแสไม่ให้หายไปจากจอ และเพื่อหารายได้มาใช้จ่ายต่อเดือน
“อย่าว่าแต่เป็นปีหรือครึ่งปีเลยครับถ้าในสองเดือนนี้โควิดไม่จบแย่เลยครับ แต่ก็เข้าใจว่าเราต้องรอ รอว่าเมื่อไหร่สถานการณ์มันจะดีขึ้น ก็ต้องฝากความหวังไว้กับบุคลากรทางการแพทย์ว่าจะค้นคว้าวิจัยตัวยามารักษาโรคนี้ให้หายขาดได้เมื่อไหร่”
ลำยอง หนองหินห่าว ศิลปินสาวชาว จ.มหาสารคาม เจ้าของเสียงร้องเพลง ‘เอาผัวไปเทิร์น’ บอกว่า ถ้าวิกฤตโควิด-19 บานปลายกินเวลานาน การดำเนินชีวิตเป็นไปด้วยความยากลำบากอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะตอนนี้เงินเก็บจากการร้องเพลง มีเหลือแค่พอจ่ายค่างวดรถและเงินเดือนลูกน้องได้ถึงเดือนพฤษาภาคมนี้เท่านั้น หลังจากธนาคารไม่อนุมัติให้พักชำระหนี้งวดรถ
“ยื่นเรื่องครั้งแรกเขาบอกว่า อาชีพนักร้องนักดนตรีไม่เข้าข่ายได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยตรง ยื่นเรื่องไป 3 รอบ ก็ไม่เป็นไรส่งงวดต่อไป สงสารน้องๆ ทีมงานวงลำยองแบนด์ แดนเซอร์ นักดนตรี กราฟฟิก แม่บ้าน ทุกคนอยู่กับสถานการณ์นี้ได้ก็จริง แต่ทิ้งความเครียดความกังวลไม่ได้หรอก การคาดเดาอนาคตไม่ได้มันเครียดนะ ส่วนของลำยองที่ผ่านมาก็ขายเครื่องดนตรีพื้นบ้านอีสาน พิณ แคน โหวด แต่คนซื้อไม่มีกำลังซื้อ เพราะทุกคนขาดรายได้เหมือนกับ ก็ทำแหนมหมูใบมะยมขายเพิ่มทางออนไลน์ ส่วนลูกน้องในวงก็แนะนำให้เขาทำอาหารขายทางออนไลน์ เพราะหลายคนมีฝีมือในการทำอาหาร แต่ก็ยังนับหนึ่งลำบากเพราะเขาไม่มีเงินลงทุนกัน”
ธัญญ่า อาร์สยาม ศิลปินสาวชาว จ.ร้อยเอ็ด มีชื่อเสียงจากเพลง ‘เหตุผลของคนจะไป’ เพลงแก้ ‘อ้ายมีเหตุผล’ ของ เบิ้ล ปทุมราช บอกว่า กับสถานการณ์ที่ไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ ย่อมมีความกังวล เพราะวิกฤตทำให้ใช้ชีวิตยากขึ้น ทั้งกลัวการติดเชื้อและคิดถึงอนาคตจะเป็นอย่างไร เงินออมที่มีอยู่จะพยุงตนเองไปได้ถึงเมื่อไหร่
“ตอนนี้ก็เริ่มแย่แล้วนะ เรามีเงินเก็บอยู่ก็จริงแต่มันก็คือเงินเก็บที่ไม่อยากใช้ แต่ก็ต้องใช้เพราะมันถึงคราวจำเป็น ตอนนี้ก็ขายของออนไลน์ งานจ้างรีวิวสินค้าช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากผลกระทบที่โดนยกเลิกงานทำให้ขาดรายได้ ได้บ้าง ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้มันจบไวๆ ไม่อยากให้ยืดเยื้อยาวนาน แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องปรับตัวอยู่กับมันให้ได้ ดูแลตัวเองให้ปลอดภัยอย่าให้ติดเชื้อ เมื่อผ่านวิกฤตนี้ไปได้จะได้เริ่มต้นใหม่ได้ทันที ตอนนี้ก็จากที่เป็นคนตัดคลิปไม่เป็น ก็เปิดยูทูบเรียนรู้การตัดคลิป เอาจริงเอาจังกับการเป็นยูทูบเบอร์ เพื่อหารายได้ทดแทนรายได้ที่เคยได้จากการร้องเพลง หยุดงานมานานแล้วก็รู้สึกเบื่อบ้างเหงาบ้าง คิดถึงเวทีอยากแต่งตัวสวยๆ ไปร้องเพลงให้คนฟัง ทุกอย่างมันดูค้างคาไปหมด ขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ที่เสียสละเป็นด่านหน้าต่อสู้กับโควิด-19 และเป็นกำลังใจให้คนไทยทุกคนผ่านวิกฤตไปได้โดยเร็ว”
ใบเฟิร์น สุทธิยา ศิลปินสาวเจ้าของเสียงร้องเพลง ‘ขอคนพิเศษ’ บอกว่า ถ้าโควิด-19 ยังไม่สงบภายในครึ่งปีแรก เธออาจจะตัดสินใจโบกมือลาเส้นทางศิลปิน ผันตนเองไปเป็นเกษตรกร ซึ่งเป็นอาชีพที่ครอบครัวสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ใช้ชีวิตเรียบง่ายที่บ้านเกิด จ.นครราชสีมา แบบยาวๆ
“ถ้าโควิดอยู่ยาวไม่สามารถทำงานอาชีพนักร้องได้ เพราะคอนเสิร์ตจัดไม่ได้ตามมาตรการของภาครัฐ ก็ต้องพักงานด้านร้องเพลงแล้วค่ะ อยู่บ้านเกิดแบบยาวๆ ทำอาชีพดั้งเดิมของครอบครัวคือเป็นเกษตรกร ใช้ชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง ปลูกพืชผักสวนครัว เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา เหมือนที่กลับบ้านมาทำอยู่ทุกวันนี้ ถามว่าลำบากไหมก็คงลำบาก ด้วยการทำงานที่เปลี่ยนไป ด้วยรายได้ที่ไม่เสถียรเหมือนเมื่อก่อน แต่คิดว่าน่าจะปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้ เป็นเด็กบ้านนอกใช้ชีวิตสบายๆ แล้วค่อยคิดวางแผนต่อว่าจะทำอะไรต่อไป”