การประกาศยืนยันในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากการพูดคุยผ่านระบบวิดีโอคอลระหว่าง ปูติน กับ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน โดยปูตินยืนยันว่าตนรอคอยการ “เดินไปด้วยกัน” ระหว่างรัสเซียกับจีน ในขณะที่ชาติตะวันตกตัดสินใจส่งเฉพาะตัวแทนนักกีฬาเข้าแข่งขัน แต่งดการส่งตัวแทนทางการทูตเข้าร่วม จากเหตุผลที่ว่าจีนมีปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศ
“ผมอยากจะชี้ให้เห็นว่า เราจะยังคงให้การสนับสนุนซึ่งกันและกันตลอด เมื่อความร่วมมือกันในทางกีฬานานาชาติมาถึง รวมถึงสถานะของเราที่ต่อต้านความพยายามในการทำให้เรื่องการแข่งกีฬาและการเคลื่อนไหวทางโอลิมปิกกลายเป็นเรื่องทางการเมือง” คำกล่าวของปูตินถูกนำเสนอโดย The Global Times สื่อของรัฐบาลจีน
จีนยังคงเผชิญหน้าอยู่กับข้อหาและหลักฐานที่ถูกเปิดโปงว่า รัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน ทั้งในประเด็นชาวอุยกูร์ในมณฑลซินเจียง ลามไปถึงปัญหาในทิเบต ฮ่องกง ตลอดจนความขัดแย้งในทะเลจีนใต้และไต้หวัน อย่างไรก็ดี จีนปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาของการละเมิดสิทธิมนุษยชน พร้อมชี้ว่าทั้งหมดเป็นเรื่องกิจการภายในรัฐ และไม่ควรมีใครเข้าแทรกแซงอำนาจอธิปไตยของตน
นอกจากแล้ว จีนยังได้ขู่ชาติที่ตัดสินใจการแบนทางการทูต ที่จะไม่ส่งนักการทูตเข้าร่วมงานการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่ตนจะเป็นเจ้าภาพในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ.2022 ที่จะถึงนี้ว่า “จะต้องรับผิดชอบต่อการกระทำที่ผิดพลาดของตน”
หวาง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนระบุว่า “สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย ใช้พื้นที่โอลิมปิกเพื่อการโน้มน้าวทางการเมือง” อย่างไรก็ดี ปูตินถือได้ว่าเป็นผู้นำระดับสูงคนแรกของโลก ที่ประกาศรับปากว่าจะเยือนจีนในการจัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวที่จะถึงนี้
ที่มา: