จากเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อ 18 ก.ค. 64 ในกิจกรรม 'ทวงวัคซีนคุณภาพ' ของกลุ่มเยาวชนปลดแอก โดยมี 3 ข้อเรียกร้องคือ 1. ประยุทธ์ต้องลาออกโดยไม่มีเงื่อนไข 2.ปรับลดงบสถาบัน-กองทัพสู้โควิด และ 3.เปลี่ยนวัคซีนซิโนแวคเป็นชนิด mRNA
โดย 15.05 น. ทางกลุ่มได้เคลื่อนขบวนจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเพื่อจะเดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาลแต่ไม่สามารถเข้าถึงทำเนียบได้เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน (คฝ.) ปิดกั้นเส้นทางไว้หลายจุด จนเกิดการปะทะกันระหว่าง คฝ. กับผู้ชุมนุมอย่างน้อย 2 จุด คือสะพานผ่านฟ้าลีลาศ และสี่แยกนางเลิ้ง โดยทางเจ้าหน้าที่มีการฉีดน้ำ, ยิงแก๊สน้ำตา และยิงกระสุนยางใส่ผู้ชุมนุม ส่งผลให้มีผู้ชุมนุม รวมถึงและสื่อมวลชนได้รับบาดเจ็บไม่น้อยกว่า 24 คน โดยมีผู้ชุมนุมถูกยิงกระสุนยางบริเวณใบหน้าอย่างน้อย 2 ราย ได้แก่
1. เยาวชนอายุ 16 ปี ถูกกระสุนยางยิงเข้าบริเวณโหนกแก้ม ตรงจุดปะทะที่สะพานผ่านฟ้า
2. วรวิช แก้วคำศรี อายุ 48 ปี ถูกกระสุนยางยิงเข้าที่สันจมูก ที่สะพานผ่านฟ้า
ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยัง วรวิช แก้วคำศรี ผู้ได้รับบาดเจ็บบริเวณสันจมูกจากการยิงกระสุนยางของเจ้าหน้าที่ โดย วรวิช ให้สัมภาษณ์ว่า ในจังหวะที่มีการปะทะกันที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ เขาเพียงแค่ต้องการนำน้ำเปล่าไปส่งให้การ์ดที่อยู่แนวหน้าเท่านั้น แต่ทันทีที่เดินเข้าไปส่งน้ำให้การ์ด เขาก็ถูกเจ้าหน้าที่ คฝ.ยิงกระสุนยางสวนเข้ามายังสันจมูกโดยไม่ทันตั้งตัว และไม่มีการประกาศการใช้กระสุนอย่างจากทางเจ้าหน้าที่ให้ทราบก่อน
รู้สึกว่าเขาไม่น่าทำกันแบบนี้ ไม่รู้ว่าเขาจงใจยิงเข้าหัวหรือเปล่า แต่วิถีกระสุนมันเป็นวิถีขนาน ไม่ได้เล็งลงที่พื้น เขาน่าจะยิ่งให้ต่ำกว่านี้เพื่อไม่ให้โดนจุดสำคัญ
วรวิช เปิดเผยถึงสาเหตุที่ตัดสินใจมาเข้าร่วมการเคลื่อนไหวครั้งนี้ เนื่องจากเขาได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการทำธุรกิจส่วนตัว แต่ไม่สามารถค้าขายได้เพราะมาตราการล็อกดาวน์ของรัฐบาล จึงตัดสินใจเดินทางมาร่วมประท้วงกับกลุ่ม 'เยาวชนปลดแอก'
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ต้องการเรียกร้องให้รัฐบาลรับผิดชอบต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้นหรือไม่ เขาตอบเพียงว่า "ไม่ต้องการเรียกร้องอะไรมาก เพียงแต่ต้องการให้นายกฯ ลาออกจากตำแหน่ง พร้อมมีการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรมเท่านั้น"
ทั้งนี้ กรณีเยาวชนอายุ 16 ปี ที่ถูกกระสุนยางเข้าโหนกแก้ม นพ.ทศพร เสรีรักษ์ รายงานผ่านเฟซบุ๊กเพจ เมื่อวันที่ 20 ก.ค. ว่า ล่าสุดน้อง มีอาการบวมและมีแผลแตกที่เบ้าตาซ้าย และเลือดออกในเบ้าตาแทรกเข้ามาใต้เยื่อบุตา หากกระสุนสูงขึ้นไปแค่เซนติเมตรเดียวคงแตกทั้งลูกตาแน่นอน
'DNA' หรือบุคลากรทางการแพทย์และอาสาสมัคร รายงานรายละเอียดผู้ได้รับบาดเจ็บจากการสลายการชุมนุม 18 ก.ค. ดังนี้
อย่างไรก็ตามทางกลุ่ม DNA ระบุว่าระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ มีคำสั่งห้ามรถพยาบาลของมูลนิธิและของโรงพยาบาลรัฐ ห้ามสแตนบายและห้ามเข้ามารับผู้บาดเจ็บส่งต่อรักษา
ทั้งนี้ยังพบผู้สื่อข่าวอย่างน้อย 4 ราย ได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิงด้วยกระสุนยาง ทั้งที่สวมปลอกแขนสื่อมวลชน ได้แก่
ขณะที่ พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) แถลงข่าวถึงกรณีสื่อมวลชนที่ถูกยิงว่า กรณีที่มีสื่อมวลชนถูกลูกหลงกระสุนยางของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น เบื้องต้นทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลต้องขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากการพูดคุยกับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเบื้องต้นทราบว่ากระสุนยางพลาดไปโดนที่แขนซ้าย ซึ่งขณะนี้ตัวน้องที่ได้รับบาดเจ็บได้กลับไปพักรักษาตัวที่บ้านแล้ว