เวลาประมาณ 17.00 น. ที่หน้ารัฐสภา คณะประชาชนปลดแอก ร่วมกับ กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย หรือ DRG นำโดยเหล่าแกนนำเช่น ทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี, จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์, ชลธิชา แจ้งเร็ว, กรกช แสงเย็นพันธ์, อานนท์ นำภา จัดกิจกรรม "ไปสภา ไล่ขี้ข้าศักดินา ผูกโบว์ขาว ปราศรัย ยื่นใบลาออกให้ ส.ว." และกิจกรรม "หยุดอำนาจนอกระบอบประชาธิปไตย"
บรรยากาศเป็นไปอย่างเข้มข้นและคึกคัก มีการพ่นสี "หมุดคณะราษฎร 2" บนพื้นถนนหน้ารัฐสภา ฝั่ง ส.ว. และร่วมกันผูกโบขาวที่ประตูรัฐสภา พร้อมเปิดอภิปรายบนรถเวที "ไม่เอา ส.ว.และอำนาจนอกระบอบ เพื่อ "สืบสาน รักษา และต่อยอดอุดมการณ์
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางกำลังประมาณ 3 กองร้อย จากท้องที่ สน.บางโพ บก.น.1, 4 และ 8 รวมทั้งตำรวจควบคุมฝูงชน เพื่อดูแลความปลอดภัยและเตรียมรับสถานการณ์ ตามแผนที่ทางสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ได้ประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องในการดูแลความปลอดภัยขั้นสูงสุดให้กับสมาชิกรัฐสภา
เนื้อหาบนเวทีปราศรัย แกนนำสลับกันขึ้นกล่าวโจมตีการทำหน้าที่ของ ส.ว. รวมถึงตั้งคำถามเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญและสภาบันพระมหากษัตริย์ ความเชื่อมโยงของ ส.ว. กับ ฝ่ายบริหารและตุลาการ รวมถึงการแทรกแชงอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติ
สิรภพ อัตโตหิ แกนนำคณะประชาชนปลดแอก เป็นตัวแทนอ่านข้อเสนอ เรียกร้องให้ ส.ว. ลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 และมาตรา 269 - 272 ว่าด้วยการปิดสวิตช์ ส.ว. และเพื่อให้การตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ สสร.ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ
อานนท์ชวนเข้ากรุงฯ ลุยกดดันแก้ รธน.
อานนท์ นำภา ทนายความศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวปราศรัยในประเด็นการแทรกแซงฝ่ายนิติบัญญัติและการทำหน้าที่ของสมาชิกวุฒิสภ (ส.ว.) ว่า ส.ว.คือทาสรับใช้เผด็จการ โดยมีความไม่ชอบธรรมตั้งแต่กระบวนการสรรหา ขณะเดียวกันหลายคนยังเป็น ส.ว.ครั้งแล้วครั้งเล่า เช่น สมชาย แสวงการ และเสรี สุวรรณภานนท์
อานนท์ เสนอว่า หากจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องใส่ชื่อคณะราษฎรลงไปด้วย เนื่องจากเป็นผู้เปลี่ยนแปลงการปกครองในอดีต ที่สำคัญการแก้ไขต้องเป็นไปด้วยความชอบธรรม และอย่าให้ใครมาอยู่เหนือรัฐธรรมนูญ
ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ยืนยันว่าจะไม่มีการลดระดับเพดานในการชุมนุม และหากมีการยื้อเวลาแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะขอเชิญชวนพี่น้องที่อยู่ต่างจังหวัดเดินทางเข้ามาขับไล่เผด็จการที่ กทม.
"ถ้ามีการตั้ง กมธ. หรือยื้อเวลา ยืนยันว่าจะเจอกันอีกครั้งแน่ วันนี้เรามาดูว่า ส.ส.- ส.ว. ที่หักหลังประชาชนจะกล้าออกมาสู้หน้าประชาชนอย่างไร ถ้ามีการยุบพรรคฝ่ายประชาธิปไตยแม้แต่พรรคเดียว ขอบอกเลยว่าจะเจอกันแบบพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินแน่นอน"
ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ระบุอีกว่า ประชาชนจะนั่งเฝ้ารอและติดตามการอภิปรายญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ จนกระทั่งทราบผลที่เป็นบวกต่อประชาธิปไตย
"ความกลัวไม่มีในหัวใจเเล้ว พวกเราถูกกระทำมามาก เมื่อกระบวนการยุติธรรมไม่ได้อยู่ข้างประชาชน เราจึงต้องเปลี่ยนแปลง"
ขณะที่ จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ หรือ อั๋ว อดีตประธานสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย(สนท.) ตั้งคำถามถึงการจัดสรรงบประมาณส่วนราชการในพระองค์ที่เพิ่มขึ้นทุกปี พร้อมเปรียบเทียบกับรายได้ของประชาชนและสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน
ทั้งนี้ จุฑาทิพย์ ยังได้แนะนำให้ฝ่ายอนุรักษนิยมตระหนักกับข้อเท็จจริง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง: