ไม่พบผลการค้นหา
‘อนุทิน’เปิดงานวิชาการกัญชาทางการแพทย์ "ปลดล็อกกัญชา กัญชง สร้างสุขภาพ สร้างรายได้" ย้ำทำตามหาเสียงใช้เวลา 2 ปี ถอด ‘กัญชา’ พ้นยาเสพติด ยืนยันเร่งออกกฎหมาย คนไทยได้สิทธิแจ้งปลูกกัญชาในครัวเรือนได้ ชี้ขอให้ใช้ประโยชน์ อย่าใช้เพื่อสนุกสนาน เผยครัวเรือนปลูกกัญชา ได้มากกว่า 6 ต้น

วันที่ 4 มี.ค. 2565 ที่อาคารเรียนรวม 100 ปี คณะเทคโนยีการจัดการ มหาวิทยาลัยราชมงคลเทคโนโลยีอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข เดินทางมาเป็นประธานการประชุมวิชาการกัญชาทางการแพทย์ เขตสุขภาพที่ 9 มีคณะผู้บริหารกระทรวงฯ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง บุคลากรการแพทย์ และประชาชนร่วมงานเป็นจำนวนมาก 

อนุทิน กล่าวว่า นโยบายกัญชาเสรีทางการแพทย์ เป็นนโยบายที่ได้รับการผลักดันมาตั้งแต่ปี 2562 ที่มีการเลือกตั้ง เราสัญญาไว้ว่าหากได้เข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน ต้องทำเรื่องนี้ให้เกิดความเป็นรูปธรรม เพื่อความผาสุกทางด้านสุขภาพและเศรษฐกิจของประชาชน

“เราใช้เวลา 2 ปีเศษในการให้กัญชาหลุดพ้นจากความเป็นยาเสพติด เราสามารถใช้ประโยชน์จากกัญชงและกัญชาได้ตามกรอบที่วางไว้ ทั้งในเรื่องของการรักษาอาการเจ็บป่วย ไปจนถึงการเป็นพืชเศรษฐกิจ แต่อย่าใช้เพื่อความบันเทิง สันทนาการ เราเริ่มเรื่องนี้จากการผลักดันใช้ในทางการแพทย์ ได้จัดอบรม แพทย์ ผู้เชี่ยวชาญ ในการใช้กัญชาอย่างถูกต้อง ไปจนถึงการควบคุมการขออนุญาตเพื่อใช้เป็นยา และสินค้าต่างๆ กัญชา มีประโยชน์ทุกส่วน ราก ต้น ใบ ดอก ใช้ได้หมด”

อนุทิน ระบุว่า การประกาศชื่อกัญชาออกจากยาเสพติดได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว และภายใน 120 จากนี้ เราจะมีกฎหมายที่ออกมาเพิ่มเติม เพื่อกำหนดกรอบการใช้ประโยชน์ เรากำลังเดินหน้าให้ประชาชน สามารถจดแจ้งปลูกกัญชาได้ และไม่ได้จำกัดที่ 6 ต้น แต่ท่านสามารถปลูกได้มากกว่านั้น ภายในครัวเรือนของประชาชน ยกเว้นว่าท่านจะปลูกเชิงอุตสาหกรรม ที่ท่านต้องขออนุญาต แต่ถ้าปลูกในครัวเรือน ก็ เพียงจดแจ้ง

อนุทิน ย้ำว่า ปัจจุบัน กฎกรอบการใช้ กำลังร่างกันอยู่ ที่ขอคือ อย่านำไปใช้เพื่อความสนุกสนานเฮฮา ประโยชน์กัญชา มีมากกว่านั้น เคยเห็นผู้ป่วยมะเร็ง ผู้ป่วยนอนไม่หลับ ใช้กัญชารักษา แล้วอาการดีขึ้น นี่คือประโยชน์ ในการยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ป่วย เราต้องเดินทางไปทุกเขตสุขภาพ เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนในเรื่องการใช้กัญชา 

"มั่นใจว่า พี่น้องประชาชนมีความเข้าใจอย่างเพียงพอที่จะนำสิ่งดีๆ จากกัญชามาใช้ให้เกิดประโยชน์ไม่ว่าจะเป็นการรวมตัวเป็นวิสาหกิจชุมชน ปลูกกัญชาสร้างรายได้ ไป จนถึงการปลูกเพื่อรักษาตัวเองและทำให้กัญชา กัญชงกลายเป็นประโยชน์ในด้านเศรษฐกิจ หลังจาก 120 วันนับตั้งแต่มีการปลดกัญชาออกจากยาเสพติด ขอให้ประชาชนใช้กัญชาเพื่อสร้างคุณประโยชน์เท่านั้น อย่านำไปใช้ให้เกิดโทษจนมีคนนำเจตนารมณ์ ในการใช้กัญชาทางการแพทย์ และเพื่อแก้ปัญหาปากท้อง ไปบิดเบือน เมื่อมีกฎกรอบกำหนดวิธีใช้ ขอให้ดำเนินการไปตามนั้น อย่าให้ถูกมองว่า เราทำผิดสัญญานานาชาติ"

อนุทิน กัญชา  4110918480.jpegอนุทิน กัญชา  BEA2-2AF56A560D0D.jpeg

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบัน จากรายงานของกระทรวงสาธารณสุข มีผู้ป่วยได้รับยากัญชา มากกว่า 240,000 ราย เป็นยาแผนไทย 85% แผนปัจจุบัน 15% รวมถึงมีการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพต่างๆ สร้างรายได้ให้กับประชาชน ประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาสามารถสร้างรายได้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจสูงกว่า 7 พันล้านบาท

และ เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2565 ได้มีประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา 120 วัน เป็นการเปิดโอกาสให้สามารถนำพืชกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ และในครัวเรือนได้มากขึ้น โดยไม่ต้องขออนุญาต เปลี่ยนเป็นการจดแจ้งให้รัฐทราบ ปัจจุบันมีวิสาหกิจชุมชนปลูกกัญชา 400 กว่าแห่ง กัญชง 1,800 กว่าแห่ง ที่ได้รับอนุญาต และมีผลิตภัณฑ์จากกัญชา กัญชงออกสู่ตลาดอย่างกว้างขวาง