ประกาศจากกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวจีนระบุว่า "เนื่องจากสถานการณ์ที่ตึงเครียดระหว่างช่องแคบจีน-ไต้หวัน การเดินทางไปไต้หวันของประชาชนจีนจะได้รับการยกระดับความเข้มงวดมากขึ้น โดยทางรัฐบาลจีนไม่อนุญาตให้ประชาชนจีนเดินทางไปเที่ยวไต้หวันคนเดียว มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมเป็นต้นไป"
ในข้อบังคับดังกล่าวยังระบุว่า มาตรการนี้จะถูกบังคับใช้จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งที่ผ่านมาจีนเคยประกาศไม่ให้ประชาชนจากปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และเซี่ยะเหมินเดินทางไปเที่ยวไต้หวันคนเดียวมานับตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2554 ก่อนจะขยายเป็น 47 เมืองในปี 2562
อย่างไรก็ตาม ประชาชนจีนที่เดินทางไปเป็นหมู่คณะหรือต้องการเดินทางไปทำธุรกิจในไต้หวันยังสามารถเดินทางไปไต้หวันได้ตามปกติ
ทั้งนี้ ปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาท่องเที่ยวไต้หวันคนเดียว 1.07 ล้านคนเพิ่มขึ้นจากปี 2560 เพียงแค่ร้อยละ 2 และในครึ่งปีแรกของปี 2562 นี้มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไต้หวันคนเดียวประมาณ 633,000 คน และคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาไต้หวันประมาณ 1.3 ล้านคน
ลิน เจียง ล๊ง รัฐมนตรีคมนาคมไต้หวันออกมาประกาศว่า ในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ไต้หวันจะเพิ่มงบประมาณสำหรับการโปรโมตการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีก 3,600 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน
ขณะที่ สภาระหว่างประเทศระหว่างไต้หวันและแผ่นดินใหญ่ออกแถลงการณ์ประณามจีนว่า "มาตรการดังกล่าวจีนได้ละเมิดข้อตกลงความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวของประชาชนทั้ง 2 ฝั่งของช่องแคบไต้หวัน"
อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายวิเคราะห์ว่านี้เป็นมาตรการที่จีนออกมาตอบโต้ไต้หวัน หลังจากที่สหรัฐฯ ขายอาวุธให้แก่ไต้หวัน ซึ่งมีมูลค่า 2,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ตัวแทนกลุ่มผู้ประท้วงประชาธิปไตยในฮ่องกงได้เข้าพบประธานาธิบดีไช่อิงเหวินของไต้หวันที่นิวยอร์กเมื่อช่วง 2-3 สัปดาห์ก่อนหน้านี้