วันที่ 23 ก.ค.2563 ที่รัฐสภา นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วม ประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. กล่าวถึงการชุมนุมของเยาวชนนักศึกษาระรอกที่ 2 ว่า จำนวนคนรุ่นใหม่ที่ลุกขึ้นมาชุมนุมปีนี้มีมากกว่า "ยุค 14 ตุลา" และ "ยุคพฤษภา 35" โดยขอให้ คนรุ่นใหม่ยึดกุมทิศทางการเคลื่อนไหวและข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อให้มั่นคง เชื่อว่าจะได้รับการสนับสนุนจากประชาชน โดยเฉพาะที่เดือดร้อนจากปัญหาเศรษฐกิจ แต่ต้องไม่ก้าวล่วงสถาบันเบื้องสูง ที่จะทำให้จุดแข็งกลายเป็นจุดอ่อนและนำไปสู่ความรุนแรงขึ้นอย่างในอดีต คือ "เหตุการณ์ 6 ตุลา 2519" หรือการที่คนเสื้อแดงถูกใส่ความเรื่องหมิ่นเบื้องสูงเมื่อปี 2553
นายจตุพร ยืนยันว่า การพูดเช่นนี้ไม่ได้ต้องการให้เกิดความกลัว แต่ต้องการให้ การเคลื่อนไหวของ คนรุ่นใหม่ได้รับการสนับสนุนและไม่หลุดจากหลักการและข้อเรียกร้องที่ต้องขีดเส้นให้ชัด โดยต้องยืนยันให้ชัดเจนด้วยว่าประเทศไทยต้องปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขเท่านั้น
ส่วนการที่สภาผู้แทนราษฎรกำลังพิจารณารับฟังความเห็นนักศึกษานั้น นายจตุพร มองว่า เวทีสภาฯ เป็นเพียงพื้นที่ให้แสดงความคิดเห็นเท่านั้น ทางออกที่ดีที่สุดในเรื่องนี้คือ นายกรัฐมนตรีต้องลงไปพูดคุยหรือเปิดเวทีรับฟังข้อเสนอของเยาวชนนักศึกษา เพราะข้อเรียกร้องอย่างน้อย 2 ข้อทั้งยุบสภาและแก้ไขรัฐธรรมนูญ เกี่ยวข้องกับนายกรัฐมนตรีโดยตรง และการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย รวมถึง ส.ว.แต่งตั้ง 250 ด้วย
โดยวันนี้นายจตุพร เดินทางมาให้ข้อมูลกับคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เรื่องแนวทางสร้างความปรองดอง สมานฉันท์ของคนในชาติ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง