งานวิจัยจากสถาบันประเมินและชี้วัดด้านสุขภาพ มหาวิทยาลัยวอชิงตันชี้ให้เห็นว่า การรับประทานอาหารที่มีโซเดียมในปริมาณที่สูง รวมไปถึงการขาดสารอาหารจากผักและผลไม้นั้นเป็นปัจจัยที่นำไปสู่การเสียชีวิตของประชากรทั่วโลกมากกว่าการการรับประทานอาหารที่มีไขมันทรานส์ และน้ำตาล เนื้อแดงจากสัตว์และอาหารแปรรูป
ผู้ช่วยศาสตราจารย์อัชคาน อัฟชิน หนึ่งในทีมวิจัยกล่าวว่า ในหลายประเทศการรับประทานอาหารที่เป็นอันตรายอย่างพวกอาหารที่มีโซเดียมสูงนั้นเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของประชากรมากกว่าการสูบบุหรี่และโรคความดันโรคหิตสูง ซึ่งในปี 2017 พบว่าอัตราการเสียชีวิตจากการขาดสารอาหารหรือการกินที่ไม่ดีนั้นสูงถึง 10.9 ล้านคน หรือคิดเป็น 22 เป็นของการเสียชีวิตในผู้ใหญ่ และเกือบ 45 เปอร์เซ็นต์นั้นผู้เสียชีวิตมีอายุต่ำกว่า 70 ปี ขณะที่โรคความดันโลหิตสูงนั้นทำให้มีผู้เสียชีวิต 10.4 ล้านคน ขณะที่อัตราการเสียของผู้ที่สูบบุหรี่นั้นมีประมาณ 8 ล้านคน
ทั้งนี้ในรายงานดังกล่าวยังระบุว่า การรับประทานโซเดียมที่มากเกินไป หรือ การไม่รับประทานผัก ผลไม้นั้นส่วนใหญ่นำไปสู่การเกิดโรคหัวใจเฉียบพลันและสโตรค ตามมาด้วยโรคมะเร็งและโรคเบาหวานประเภท 2 มากที่สุดตามลำดับ
สำหรับประเทศที่มีอัตราการเสียชีวิตจากการรับประทานอาหารมากที่สุดนั้น คือ ประเทศอุซเบกิซสถาน ซึ่งมีอัตราการเสียชีวิตของประชากรสูง 892 คน ต่อจำนวนผู้เสียชีวิต 100,000 คน ขณะที่อิสราเอลเป็นประเทศที่มีอัตราการเสียชีวิตจากการกินต่อประชากรน้อยที่สุด คือ พบการเสียชีวิตจากการรับประทานอาหารในอัตรา 89 คนจาก 100,000 ตามมาด้วยฝรั่งเศส สเปน และญี่ปุ่น
ในรายงานดังกล่าวยยังระบุว่า ประเทศไทย ญี่ปุ่น จีนและอินโดนีเซีย เป็นกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงสูงที่สุดในการรับประทานโซเดียมในปริมาณที่สูง โดยเฉพาะในเครื่องปรุงอย่าง ซีอิ๋วเปรี้ยว ซอส รวมไปถึงพริกแกงต่างๆ ที่ใช้เป็นส่วนประกอบของอาหารท้องถิ่น
ที่มา CNN / The guardian