ไม่พบผลการค้นหา
คุยกับ ‘วราวุธ ศิลปอาชา’ ลูกมังกรการเมืองสุพรรณบุรี ถึงการวางเกมนำทัพชาติไทยพัฒนา สู้ศึกเลือกตั้ง เพื่อไปสู้เป้าหมาย ส.ส. 25 เก้าอี้ยกระดับเป็นพรรคไซส์เอ็มแบบขนาดกลาง และเสน่ห์ที่ใครๆก็ชอบชวนร่วมรัฐบาล พร้อมเผยถึงสไตล์การทำงานที่เน้นผู้มิตรมากกว่าสร้างศัตรู

นับถอยหลังเหลือเวลาราว 3 เดือน จะถึงวันกำหนดเลือกตั้งทั่วไปในเดือน พ.ค. 2566 ประชาชนคนไทยจะได้เลือกตั้ง ส.ส. ได้ผู้นำประเทศและรัฐบาลชุดใหม่ วันนี้หลายพรรคการเมืองเปิดหน้าสู้กันเต็มที่ หวังมัดใจชาวบ้านให้ได้กลับมาอีกครั้ง และถ้าจะยิ่งดีควรอยู่ฝั่งรัฐบาลเพื่อทำงานได้ถัดมือ หนึ่งในนั้นที่อยากจะสานงานต่อคือ ชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ค่ายการเมืองภายใต้การนำของหัวหน้าพรรค วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) สายเลือดมังกรการเมืองแดนสุพรรณบุรี บรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ 21

‘วอยซ์' ได้พูดคุยกับทายาทมังกรการเมืองแห่งสุพรรณบุรี ผ่าน Voice Politics ถึงทิศทางการเดิมเกมอนาคตการเมืองของชาติไทยพัฒนา กับศึกเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง และเสน่ห์ที่ทำให้หลายพรรคแกนนำตั้งรัฐบาลมักชักชวนร่วมรัฐบาลอยู่เสมอๆ กับการทำงานในตำแหน่งรัฐมนตรี ทส.ตลอดระยะเวลา 3 ปีกว่า 

วราวุธ VoicePolitics ปกเฟซบุ๊ก 6-EB47432BD77E.jpeg

“ถอยหลัง 1 เพื่อเดินหน้าหลายก้าว” รัฐมนตรี ไม่เน้นปะทะ-ฟังเสียงทุกฝ่าย

วราวุธ เล่าถึงความรู้สึกการทำงานในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาสนุก เพราะได้นำความรู้ ความสามารถมาทำงานให้ประเทศอย่างเต็มที่ แม้บางครั้งอาจเหนื่อยบ้าง แต่ภาพรวมตลอดระเวลาการทำงานในตำแหน่งรัฐมนตรีฯ กระทรวงทรัพย์ฯ ไม่เหนื่อยมาก เพราะสนุกกับงานและมักจะมีปัญหาเข้ามาให้แก้ไขอยู่เรื่อยๆ

ส่วนความท้าทายหลักๆ คือ การบริหารคน เพราะงานกระทรวงฯ รัฐมนตรีจะต้องร่วมมือกับเพื่อนๆ ข้าราชการฉะนั้นจึงเป็นโจทย์ท้าทายว่าต้องทำอย่างไรเพื่อรวบรวมพลังของกระทรวงฯ ไล่ไปตั้งแต่ ปลัด อธิบดี จนถึงเจ้าหน้าที่ทุกคน ในการรวมพลังความสามารถและความคิดให้เป็นหนึ่งเดียวเพื่อดำเนินงานไปทิศทางเดียวกัน

วราวุธ บอกว่า สไตล์การทำงานของตนในตำแหน่งรัฐมนตรี ไม่เน้นทำงานหรือคิดเพียงคนเดียว เพราะยอมรับว่าความรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมหรือทรัพยากรทางธรรมชาติ สู้เพื่อนข้าราชการกระทรวงฯ ไม่ได้เพราะทุกคนล้วนมีประสบการณ์มาก ฉะนั้นเมื่อเข้ามาทำงานในตำแหน่งนี้จึงยึดหลักการทำงานคือ เปิดโอกาสให้ทุกคนได้แสดงความคิดเห็นเต็มที่ แล้วผลสุดท้ายมาตัดสินใจร่วมกัน ไม่ใช่วันแมนโชว์

ส่วนที่ตลอดระยะเวลาการทำงานกว่า 3 ปี แทบจะไม่ถูกโจมตีจากทางการเมืองนั้น วราวุธ เชื่อว่า มาจากหลักการที่ว่าตนไม่เคยเอาการเมือง เข้ามาอยู่ในการทำงานของกระทรวงฯ ประกอบกับเพื่อนๆ ส.ส.ฝ่ายค้าน เมื่อมีประเด็นปัญหาอะไรจะประสานแจ้งมา และสุดท้ายก็แลกเปลี่ยนข้อมูลกันจึงทำให้หลายปัญหาจบลงด้วยดี เพราะส่วนตัวคิดว่าการเป็นรัฐมนตรีก็ไม่ใช่จะรู้ทุกองคคาพยพของกระทรวง 100% ดังนั้นจึงมองว่า การนำเสนอปัญหาของฝ่ายค้าน ถือว่าเป็นความสวยงามและถ่วงดุลที่แท้จริง นี่จึงเป็นสิ่งที่ทำให้การทำงานของกระทรวง ทส.เดินหน้าได้ไม่ค่อยติดขัด

“ผมเชื่อในการเมืองสร้างสรรค์ ผมเปลี่ยนคนอื่นไม่ได้ ดังนั้นผมจะทำตัวเองให้เป็นตัวอย่างของคนอื่น เพราะการบวกกันไม่ใช่แก้ปัญหา ผมเชื่อว่าสุดท้ายทุกคนควรจะต้องได้ตามที่ตั้งเป้าไว้ เพราะการที่เราเป็นรัฐมนตรีและยอมถอยก้าวหนึ่ง มันจะทำให้งานเดินหน้าไปได้ ซึ่งจะเกิดประโยชน์มากกว่า เพราะผมมองว่า ถอยหลังหนึ่งก้าว เพื่อเดินหน้าหลายก้าว”

วราวุธ VoicePolitics 2A92132.jpegวราวุธ_Voice_Logo_018.jpg
  • ‘ลูกมังกรสุพรรณฯ’ ลั่นศึกเลือกตั้ง ชทพ.สู้ไม่ถอย อย่างมากแค่ถอยไปตั้งหลัก

สำหรับการขับเคลื่อนเพื่อให้พรรคชาติไทยพัฒนาไปสู่เป้าหมายหลังการเลือกตั้ง วราวุธ เล่าให้ฟังว่า ชาติไทยพัฒนาพูดมาตลอดตั้งแต่ปี 2562 ว่ามิติประเทศไทยวันนี้ที่จะเดินไปข้างหน้า ใช้คนรุ่นใหม่อย่างเดียวไปไม่รอด หรือใช้ผู้หลักผู้ใหญ่ที่มาจนถึงวันนี้ก็ไม่ได้ ฉะนั้นการทำงานของประเทศไทยวันนี้ รุ่นใหม่และรุ่นใหญ่ต้องจับมือเดินไปด้วยกัน โดยใช้ความสามารถ ศักยภาพคนรุ่นใหม่ มาเป็นตัวนำทัพ ควบคู่กับใช้ประสบการณ์คนรุ่นใหญ่ร่วมด้วย

“การที่ผมเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา และมีท่านประภัตร โพธสุธน เป็นเลขาธิการพรรคฯ เป็นเครื่องยืนยันว่า วันนี้ชาติไทยพัฒนา เรามีทั้งรุ่นใหญ่และรุ่นใหม่เดินไปด้วยกัน”

ลูกมังกรการเมืองแดนสุพรรณฯ ย้ำถึงการขับเคลื่อนองค์กรอีกว่า พรรคชาติไทยพัฒนา วันนี้แม้นายบรรหาร จะไม่อยู่แล้ว และก็หาคนอย่าง บรรหาร ศิลปอาชา ในการเมืองไทยไม่มีอีกแล้ว ฉะนั้นการที่ตนมานั่งเป็นหัวหน้าพรรค แปลว่าเราสามารถนำพลังของทุกคนมาร่วมกันทำงานได้

สำหรับสงครามการเมืองไทยในปัจจุบัน วราวุธ กล่าวอย่างมั่นใจว่า สู้ไหว โดยเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ ซึ่งวันนี้ตนยังตอบไม่ได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ตอบได้คือ “ผมสู้ไม่ถอย วันนี้หัวหน้าพรรคชาติไทย ชื่อวราวุธ ศิลปอาชา จะไปไกลแค่ไหนเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมบอกได้คือ วันนี้เราทำงานไม่แพ้ใครแน่นอน สู้กันสักตั้ง อย่างมากก็ถอยกลับไปตั้งหลักใหม่”

วราวุธ VoicePolitics B386C56180C7.jpeg
  • สู้ขาดใจปกป้องพื้นที่เดิม - เป้าต่อไป 25 ส.ส.ขยับชทพ.เป็นพรรคไซส์เอ็ม

แม่ทัพชาติไทยพัฒนา เผยถึงเป้าหมายเก้าอี้ ส.ส.หลังการเลือกตั้ง ว่า ปัจจุบันมี 12 ส.ส. ฉะนั้นครั้งต่อไปหวังต้องเพิ่มขึ้นเท่าตัว ไม่ต่ำกว่า 25 คน เพราะเป็นตัวเลขที่พรรคการเมืองสามารถทำงานได้อย่างอิสระ โดยไม่ต้องขอคะแนนเสียงพรรคอื่น อาทิ การเสนอญัตติ เสนอกฎหมาย รวมถึงเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ส่วนการวางตัวไซส์ชาติไทยพัฒนา วันข้างหน้า วันนี้อยู่ระดับเล็กคือ S ฉะนั้นการเลือกตั้งรอบหน้าหวังว่าจะโตขึ้นเป็นพรรคขนาด M ให้ได้

ส่วนแผนการเดินเกมเพื่อไปให้ถึงเป้า ส.ส. 25 เก้าอี้ วราวุธ ยอมรับว่า ต้องหาผู้เล่นที่เก่งๆมาร่วมงาน โดยการส่งเทียบเชิญเกี้ยวพาราสี ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติทางการเมือง พร้อมเปรียบเทียบว่าการเมืองไม่ต่างอะไรกับการทำฟุตบอล จบฤดูกาลก็ต้องส่ายตามองหานักเตะมาเสริมทีมในตำแหน่งที่ขาด ฉะนั้นขณะนี้อยู่ในช่วงเกี้ยวพาราสีนักการเมืองจากพรรคอื่น เช่นเดียวกับที่พรรคอื่นก็พยายามทอดสะพานคนของ ชทพ.เช่นเดียว ซึ่งต้องทำให้ดีที่สุด พร้อมมั่นใจว่ากลุ่มบ้านใหญ่ของ ชทพ. อย่าง ตระกูลสะสมทรัพย์ บ้านใหญ่นครปฐม รวมถึงคนเก่าแก่ของพรรคอย่าง ประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา และ รมช.เกษตรและสหกรณ์ จะไม่หนีย้ายไปสังกัดพรรคอื่นแน่นอน

“ผมพูดได้ว่าวันนี้พอนายบรรหาร ไม่อยู่ แน่นอนสุพรรณบุรี จะเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่หลายพรรคการเมือง หมายมั่นปั้นมือจะมายึดครองหรือตีไข่ให้แตก ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติทางการเมือง แต่หน้าที่ของผมคือ เราจะสู้อย่างเต็มที่ เพื่อปกป้องฐานของเรา ทำนองที่ว่า เจ๊งไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้ ใครมาเท่าไหร่ ผมสู้ขาดใจ มันจะต้องสู้กันตายไปข้างหนึ่ง

วราวุธ VoicePolitics  26237A967.jpeg


วราวุธ VoicePolitics -BBDE2B13B0B7.jpeg


  • เอกลักษณ์เด่นได้ร่วมรัฐบาล – ตำแหน่งสูงสุด ‘ลูกนายกฯ บรรหาร’

สำหรับโอกาสจับมือทางการเมืองเพื่อเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหลังเลือกตั้ง วราวุธ บอกว่า วันนี้ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะต้องดูสมการตัวเลขหลังการเลือกตั้ง จึงค่อยนำมาบวกกัน ส่วนจะสนับสนุน 3ป.ต่อไปหรือไม่ ก็ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะวันนี้หวังเพียงต้องทำฐานเสียงให้แข็งแรงที่สุดก่อน หลังเลือกตั้งค่อยมาพูดคุยกัน

ส่วนที่สังคมจับตามองพรรคชาติไทยพัฒนาจะเป็นฝ่ายค้านได้หรือไม่ วราวุธ ชี้แจงว่า ตลอดระยะเวลาที่เราอยู่ในการเมืองมา 48 ปี เราก็เคยเป็นพรรคร่วมรัฐบาลและแกนนำฝ่ายค้าน โดย บรรหาร ก็เคยเป็นแกนนำฝ่ายค้าน เป็นมาหมดแล้วทั้งแกนนำฝ่ายค้านและรัฐบาล ฉะนั้นจึงพร้อมทุกสถานะ

ขณะที่เสน่ห์ที่ทำให้พรรคใหญ่มักเลือกพรรคชาติไทยฯ วราวุธ เชื่อว่า เราทำงานแบบ เมื่อลงเรือลำเดียวกันแล้ว ก็จะทำงานให้จนจบสมัยเรือลำนั้น ถือเอกลักษณ์ของพรรคชาติไทยพัฒนา เพราะเมื่อไหร่ที่รับปากแล้ว เรามีสัจจะและจะร่วมกันทำงานจนจบ

ช่วงท้าย วราวุธ เผยความในใจถึงเป้าหมายบนถนนการเมือง ว่า เพื่อสานงานของบิดา ที่จะทำให้ประชาชนอย่างเต็มที่ พร้อมยืนยันว่า ไม่มีความทะเยอทะยานทางการเมือง ไม่จำเป็นต้องมีตำแหน่งใหญ่โตหรือเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะรู้สึกว่าตำแหน่งใหญ่ที่สุดในชีวิต คือเป็นลูกนายกรัฐมนตรี คนที่ 21

“ในรัฐบาลแต่ละสมัย มาจนถึงวันนี้ มีผมคนเดียวที่เป็นรัฐมนตรีและมีพ่อเป็นนายกฯ ฉะนั้นคือตำแหน่งที่ใหญ่ที่สุดในชีวิต”

วราวุธ_Voice_Logo_008 (1).jpgวราวุธ VoicePolitics  DF31E20.jpegวราวุธ VoicePolitics B5CF12AAC.jpeg

ภาพ - ปฏิภัทร จันทร์ทอง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง