ชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่ บริษัทฯ เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการนั้น เพื่อให้การฟื้นฟูสำเร็จลุล่วงสามารถประกอบกิจการต่อไปได้ จำเป็นต้องปรับปรุงโครงสร้างองค์กร และกลยุทธ์ทางธุรกิจหลาย ๆ ด้าน เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการดำเนินงานมากขึ้น เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน และการบริหารจัดการต้นทุนให้สามารถแข่งขันในตลาดได้
โดยบริษัทฯ ได้จัดโครงสร้างองค์กรที่เป็นแบบรวมศูนย์สำหรับงานเกี่ยวกับการเงินบัญชี การบริหารงานบุคคล การจัดซื้อ เพื่อลดความซ้ำซ้อนของงานและเป็นการใช้ข้อมูลร่วมกัน รวมทั้งลดจำนวนผู้บริหารลงจาก 740 อัตรา เหลือประมาณ 500 อัตรา อีกทั้งลดขั้นตอนการบังคับบัญชา จากเดิม 8 ระดับ เหลือ 5 ระดับ ได้แก่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ระดับ 14 ประธานเจ้าหน้าที่ (Chief of) ระดับ 12-13 ผู้อำนวยการ (Director) และกรรมการผู้จัดการ (Managing Director) ระดับ 11-12 หัวหน้าฝ่าย (Head of) ระดับ 10 และหัวหน้ากลุ่มงาน (Team Lead) ระดับ 8-9 และแบ่งออกเป็น 8 สายงาน ได้แก่ 1.สายการพาณิชย์ 2.สายปฏิบัติการ 3.สายช่าง 4.สายการเงินและการบัญชี 5.สายทรัพยากรบุคคล 6.ฝ่ายดิจิทัล 7.ฝ่ายขับเคลื่อนองค์กร 8.หน่วยธุรกิจการบิน
ทั้งนี้ ภายในหน่วยงานดังกล่าว ได้เพิ่มหน่วยงานใหม่ 2 หน่วยงาน ได้แก่ ฝ่ายขับเคลื่อนองค์กร (Transformation) โดยจะทำหน้าที่ขับเคลื่อน ประสานเชื่อมโยงและรวบรวมความคิดริเริ่มที่มาจากพนักงาน (Bottom Up) เพื่อให้พนักงานมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนองค์กร ซึ่งขณะนี้มีโครงการริเริ่มแล้วกว่า 600 โครงการ หากดำเนินการตามแผนคาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทฯ และฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาองค์กร (Corporate Strategy & Development) เป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่วางแผน กำหนดทิศทางกลยุทธ์ในภาพรวม การสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ของบริษัทฯ และการบริหารจัดการบริษัทในเครือ
นอกจากนี้ได้เปิดโครงการร่วมใจเสียสละเพื่อองค์กร (Mutual Separation Plan) ให้พนักงานสมัครใจเสียสละเข้าร่วมโครงการและลาออกจากบริษัทฯ แบ่งเป็น 2 โครงการ ได้แก่ โครงการร่วมใจจากองค์กรแผน B (MSP B) เป็นโครงการต่อเนื่องจากโครงการลาระยะยาว Leave With 20% Pay (LW 20) ที่พนักงานได้รับเงินเดือน 20% เป็นเวลา 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2563 – 30 เม.ย. 2564 และโครงการร่วมใจจากองค์กรแผน C (MSP C) โดยทั้งสองโครงการจะเปิดรับสมัคร แบ่งเป็น 4 Block ได้แก่
โดยพนักงานที่เข้าโครงการฯ จะได้รับเงินตอบแทนในอัตราเทียบเท่าค่าชดเชยตามกฎหมายแรงงาน คำนวณจากค่าจ้างอัตราสุดท้ายของพนักงานตามกฎหมาย และยังมีเงินตอบแทนพิเศษเพิ่มเติม โดยพนักงานที่เข้า MSP B จะได้เงินตอบแทนพิเศษเพิ่มเติมเท่ากับเงินเดือน 4 เดือน ส่วนพนักงานที่สมัครใจเข้าโครงการ MSP C จะได้เงินตอบแทนพิเศษเพิ่มเติม เท่ากับเงินเดือน 0.5 – 1 เดือน ตามอายุของพนักงาน
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะแบ่งจ่ายเงินช่วยเหลือดังกล่าวเป็นระยะเวลา 12 งวด โดย MSP B Block ที่ 1 เริ่มจ่ายงวดแรกในเดือน มิ.ย. 2564 และ Block ที่ 2 - 4 เริ่มจ่ายงวดแรกในเดือนถัดไปตามลำดับ ส่วน MSP C Block ที่ 1 เริ่มจ่ายงวดแรกในเดือนก.ย. 2564 และ Block ที่ 2 - 4 เริ่มจ่ายงวดแรกในเดือนถัดไปตามลำดับ