ไม่พบผลการค้นหา
วันศุกร์ที่ 24 พฤศจิกายนนี้ เป็นวัน Black Friday หรือวันลดราคาสินค้าครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ นิตยสารฟอร์จูนมองว่านี่คือศึกที่จะชี้วัดศักยภาพของธุรกิจค้าปลีกแต่จะเจ้าในยุคที่การค้าปลีกแบบเดิมๆกำลังพ่ายแพ้ให้กับอีคอมเมิร์ซ

Black Friday คือวันช็อปปิงหลังจากวันขอบคุณพระเจ้า ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นเทศกาลจับจ่ายสินค้าสำหรับคริสต์มาสที่กำลังจะมาถึง Black Friday มีมาตั้งแต่ปี 1952 และพลังการช็อปปิงของชาวอเมริกันก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆในแต่ละปี รวมถึงมีการเผยแพร่วัฒนธรรมลดราคาสินค้า Black Friday ไปทั่วโลกในฐานะแคมเปญลดราคาสินค้าเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยช่วงก่อนสิ้นปี โดยเฉพาะเมื่อในระยะหลัง มีวัน Cyber Monday เพิ่มขึ้นมา เพื่อส่งเสริมให้คนซื้อสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในราคาพิเศษ ทำให้เทศกาลช็อปปิง Black Friday ขยายเวลาการจับจ่ายใช้สอยเป็นประมาณ 4 วัน คือตั้งแต่วันศุกร์-วันจันทร์ 

อย่างไรก็ตาม วันสำคัญที่สุดยังคงเป็นวันศุกร์ Black Friday ที่ปีนี้ ประเมินกันว่าในสหรัฐฯจะมีผู้ไปจับจ่ายกันมากกว่า 115 ล้านคน นี่จึงเป็นโอกาสอันดีที่ธุรกิจค้าปลีกต่างๆจะได้พิสูจน์ศักยภาพกันว่าการลงทุนในด้านแคมเปญโฆษณา การพัฒนาระบบช็อปปิงออนไลน์ ไปจนถึงการทำโปรโมชั่นต่างๆ สามารถเอาชนะใจลูกค้าและสร้างยอดขายได้มากขนาดไหน เพราะแม้นี่จะเป็นช่วงเวลาที่มีการจับจ่ายมากที่สุดช่วงหนึ่งของปี แต่การแข่งขันด้านราคาและโปรโมชั่นต่างๆก็เข้มข้นที่สุดเช่นกัน โดยเฉพาะในปีนี้ ที่มีการยุบสาขาร้านค้าปลีก และการประกาศล้มละลายของหลายเจ้า ท่ามกลางเทรนด์ที่กำลังเอนเอียงไปทางอีคอมเมิร์ซมากขึ้นเรื่อยๆ

ร้านค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯอย่างวอลมาร์ท (Walmart) ยังถือว่าทำผลงานได้ดี วอลมาร์ทมียอดผู้เข้าไปซื้อสินค้าในร้านสูงขึ้น 13 ไตรมาสติดต่อกัน ทำให้ตอนนี้หุ้นทะยานสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเป็นผลมาจากการหันมาทุ่มเทกับระบบช็อปปิงออนไลน์ และปรับปรุงร้านให้น่าเดินยิ่งขึ้น ทำให้วอลมาร์ทยังแข่งขันกับอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่อย่างแอมะซอนได้อย่างพอสมน้ำสมเนื้อ

ขณะที่เมซีย์ส (Macy's) ห้างค้าปลีกระดับกลางที่เก่าแก่อยู่คู่สังคมอเมริกันมานาน กลับเผชิญสถานการณ์ที่แตกต่างออกไป ผลประกอบการของเมซีย์ส ลดลง 12 ไตรมาสติดต่อกัน และตอนนี้ CEO คนใหม่ของห้างฯกำลังปรับกลยุทธครั้งใหญ่ เช่นการเจาะกลุ่มสินค้าเฉพาะเจาะจงมากขึ้น และไม่ทุ่มเงินกับการลดราคาพร่ำเพรื่ออีกต่อไป รวมถึงเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้าประจำและลูกค้าที่ทำยอดซื้อสูง เช่นการส่งสินค้าฟรี

Black Friday นี้จะเป็นสมรภูมิใหญ่แรกของเมซีย์ส หลังการปรับโฉมและปรับกลยุทธครั้งใหญ่ จึงต้องจับตามองว่ายอดขายในช่วงสิ้นปีของเมซีย์ส จะกลับมาดีขึ้นหรือไม่

แต่ผู้ที่ต้องลุ้นกับ Black Friday นี้มากกว่าเมซีย์สก็คือทอยอาร์อัส (Toy R Us) ที่เพิ่งล้มละลาย และได้ยื่นขอคุ้มครองจากการล้มละลายเพื่อปรับโครงสร้างบริษัทไปเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เทศกาลช็อปปิงที่กำลังจะมาถึงจึงเป็นการพิสูจน์ตัวเองของร้านของเล่นชื่อดัง ว่าจะสามารถพลิกฟื้นสถานการณ์กลับมาได้หรือไม่ และจะสู้กับอีคอมเมิร์ซอย่างแอมะซอน รวมถึงยักษ์ใหญ่ค้าปลีกอย่างวอลมาร์ทอย่างไร