นะงะโกะ โทมิโอกะ หัวหน้านักบวชหญิงวัย 58 ปีของวัดโทมิโอกะ ฮะจิมังกุ ถูกน้องชายของตัวเองสังหารในเขตวัด ช่วงค่ำวานนี้ (7 ธันวาคม) ตามเวลาท้องถิ่นของญี่ปุ่น ส่วนคนขับรถของนะงะโกะถูกฟันที่ไหล่จนได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต และหลังจากที่น้องชายของนะงะโกะลงมือก่อเหตุสำเร็จ เขาก็ได้สังหารภรรยาของตัวเองและฆ่าตัวตายตาม ทำให้มีผู้เสียชีวิตที่วัดรวมทั้งหมด 3 ราย

สำนักข่าวเคียวโดนิวส์และรอยเตอร์รายงานว่าผู้ก่อเหตุคือ นายชิเงะนะกะ โทมิโอกะ วัย 56 ปี น้องชายของหัวหน้านักบวชหญิงที่เสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่พบดาบซามูไรที่ใบมีดยาว 80 เซนติเมตร หักเป็น 2 ท่อน พร้อมด้วยมีดสั้นและมีดเดินป่าอีก 2 เล่ม ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ จึงสันนิษฐานว่าชิเงะนะกะใช้ดาบซามูไรฟันพี่สาวของตัวเอง ส่วนภรรยาของชิเงะนะกะ อายุประมาณ 30 ปี ซึ่งข่าวไม่ได้ระบุชื่อ เป็นผู้ใช้มีดทำร้ายคนขับรถ ก่อนที่ชิเงะเนะกะจะสังหารภรรยาและฆ่าตัวตาย

ตำรวจคาดว่า แรงจูงใจในการก่อเหตุมาจากปมขัดแย้งเรื่องตำแหน่งหัวหน้านักบวช เพราะนะงะโกะเคยแจ้งความกรณีดังกล่าวกับตำรวจในท้องถิ่นมาแล้วเมื่อปี 2002 และสื่อหลายสำนักรายงานตรงกันว่าชิเงะนะกะส่งจดหมายจำนวนหนึ่งเพื่อข่มขู่ให้พี่สาวตัวเอง "ไปลงนรก" เมื่อปี 2006 ขณะที่เจแปนไทม์สรายงานว่าชิเงะนะกะเคยดำรงตำแหน่งหัวหน้านักบวชระยะหนึ่ง ก่อนจะถูกปลดเมื่อปี 2001 และบิดาของทั้งสองคนขึ้นดำรงตำแหน่งแทน จนกระทั่งปี 2010 จึงยุติบทบาทและแต่งตั้งให้นะงะโกะดำรงตำแหน่ง จนกระทั่งเกิดเหตุฆาตกรรมดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม สมาคมนักบวชชินโตของญี่ปุ่นไม่รับรองสถานะของนะงะโกะในฐานะผู้สืบทอดตำแหน่งหัวหน้านักบวชของวัดโทมิโอกะฯ ทำให้เธอลาออกจากการเป็นสมาชิกของสมาคมตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา

ค่านิยมในสังคมญี่ปุ่นยังคงให้ความสำคัญกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิง หัวหน้านักบวชของวัดชินโตส่วนใหญ่ซึ่งจะเป็นผู้ประกอบพิธีสำคัญต่างๆ จึงมักจะเป็นผู้ชาย แต่การแต่งตั้งผู้หญิงเป็นนักบวชระดับสูงก็เป็นสิ่งที่พบเห็นในบางตระกูล เช่น ซะยะโกะ คุโรดะ พระธิดาในสมเด็จพระจักรอะกิฮิโตะ ประมุขของราชวงศ์ญี่ปุ่นพระองค์ปัจจุบัน ซึ่งลาออกจากฐานันดรเพื่อไปแต่งงานกับสามัญชน ได้รับแต่งตั้งเป็นนักบวชสูงสุดแห่งวัดอิเสะของศาสนาชินโตเช่นกัน แม้จะเป็นเพียงตำแหน่งทางพิธีการ แต่ก็ถือว่าเป็นตำแหน่งที่สำคัญ  

ขณะที่วัดโทมิโอกะฯ เป็นวัดเก่าแก่แห่งหนึ่งของศาสนาชินโต ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1627 หรือ 390 ปีที่แล้ว ขึ้นชื่อด้านการทำพิธีเสริมศิริมงคลแก่นักกีฬาซูโม ทำให้มีประชาชนมาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมากในแต่ละปี รวมถึงสมเด็จพระจักรพรรดิ์อะกิฮิโตะ ซึ่งเคยเสด็จเยือนวัดแห่งนี้เมื่อปี 2012 และวัดชินโตมีบทบาทสำคัญในการประกอบพิธีกรรมต่างๆ ทั้งที่เป็นมงคลและอวมงคล ยิ่งวัดมีชื่อเสียงหรือเก่าแก่มากเท่าไหร่ ก็จะช่วยให้มีรายได้จากผู้มีจิตศรัทธาที่มาเยี่ยมเยียนวัดมากขึ้นเท่านั้น

Photo: Kyodo News