เกิดการปะทะกันอย่างดุเดือดระหว่างชาวปาเลสไตน์และเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของอิสราเอลตลอดแนวพรมแดนฉนวนกาซาในเขตเวสต์แบงก์ เมื่อวานนี้ (14 พ.ค.) ซึ่งตรงกับวันครบรอบ 70 ปีการสถาปนารัฐอิสราเอล และเป็นวันเดียวกับที่สหรัฐฯทำพิธีเปิดสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯแห่งใหม่ที่ย้ายมาเปิดที่นครเยรูซาเซม ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับชาวปาเลสไตน์และชาวมุสลิมจำนวนมาก ที่มองว่าอิสราเอลพยายามจะสร้างความชอบธรรมในการครอบครองนครเยรูซาเลมไว้แต่เพียงผู้เดียว การปะทะกันที่รุนแรง ซึ่งกองทัพอิสราเอลใช้ทั้งแก๊สน้ำตา และสไนป์เปอร์ ก็ทำให้ผู้ประท้วงชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตแล้ว 55 ราย ซึ่งมีเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี รวมอยู่ได้ถึง 8 ราย และมีผู้บาดเจ็บอีกกว่า 2,000 คน 

นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล แถลงข่าวว่าอิสราเอลมีความจำเป็นต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดเพื่อปกป้องตัวเอง ซึ่งกลุ่มผู้ประท้วงมีการรวมตัวกันตามจุดต่างๆรอบฉนวนกาซากว่า 40,000 คน และการประท้วงครั้งนี้มีกลุ่มติดอาวุธฮามาสที่ข่มขู่ว่าจะทำลายล้างอิสราเอลให้สิ้นซากอยู่เบื้องหลัง

ภาพ: AP