ไม่พบผลการค้นหา
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับ ปปง. ทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมยึดทรัพย์กว่า 120 ล้านบาท เตรียมอายัดเงินคืนผู้เสียหายภายใน 2 สัปดาห์ และดำเนินผู้รับจ้างเปิดบัญชี ตัดช่องทางการกระทำผิด
vlcsnap-2017-12-04-13h37m05s49.png

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ร่วมแถลงผลการทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่ โดยที่ผ่านมา สามารถออกหมายจับผู้กระทำผิดได้ 113 หมายจับ ตามจับได้แล้ว 80 หมายจับ แต่ยังมีผู้หลบหนีไปต่างประเทศอีก 7 ราย สามารถยึดเงินได้กว่า 120 ล้านบาท เบื้องต้น สามารถคืนเงินให้กับผู้เสียหายได้ 4 ราย และจะทยอยคืนเงินให้ผู้เสียหายทั้งหมดภายใน 2 สัปดาห์ พร้อมเตือนประชาชน หากได้รับโทรศัพท์หลอกลวงในลักษณะผิดปกติ ขอให้แจ้งตำรวจทันที 

ด้าน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว กล่าวว่า ตำรวจสามารถจับเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่ได้ 8 ราย ซึ่งรายล่าสุด คือ นายทอมมี่ วู สัญชาติอินโดนีเซีย ที่ร่วมกับชาวไทย ใช้ประเทศฟิลิปปินส์เป็นฐานกระทำผิด โดยเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบความเชื่อมโยงทางคอมพิวเตอร์ พร้อมกล่าวด้วยว่า หลังจากนี้ ประชาชนที่รับจ้างเปิดบัญชี จะถูดดำเนินคดีทุกราย ดังนั้น หากผู้ใดเข้าจ่ายการกระทำดังกล่าว ขอให้ไปปิดบัญชีทันที

ขณะที่ พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ วีริยาสรร รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง. กล่าวว่า ในส่วนของทรัพย์สินที่ตำรวจยึดได้กว่า 120 ล้านบาท ปปง. จะใช้มาตรการฟอกเงิน ยึดอายัดทรัพย์สิน และเร่งคืนให้ผู้เสียหายโดยเร็ว ทั้งนี้ ปปง. จัดตั้งสายด่วน 1710 สำหรับผู้เสียหายจากแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์โดยตรง พร้อมตรวจสอบบัญชีความเสี่ยงสูงที่รับจ้างเปิดบัญชีต่อไป