เกิดเหตุน้ำท่วมหนักในพื้นที่กว่า 3 ใน 4 ของเมืองเวนิส หลังระดับน้ำสูงถึง 156 เซนติเมตร ก่อนจะลดระดับลงเล็กน้อย ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ รวมถึงนักท่องเที่ยวต้องสวมรองเท้าบูทกันน้ำเดินกันตามท้องถนน ขณะที่จัตุรัสเซนต์มาร์ก สถานท่องเที่ยวสำคัญของเวนิสก็เชิญนักท่องเที่ยวออกจากพื้นที่

เมืองเวนิสมักประสบปัญหาน้ำท่วมเมือง เมื่อกระแสลมแรงพัดให้น้ำจากทะเลสาบหนุนขึ้นมา อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2008 ด้านนายลูกา ไซอา ผู้ว่าการเวเนโตกล่าวว่าน้ำท่วมสัปดาห์นี้อาจรุนแรงเทียบเท่าน้ำท่วมปี 1966 ที่ทำให้เวนิสจมน้ำ และทำลายสถานที่ทางประวัติศาสตร์ของเมืองฟลอเรนซ์

น้ำท่วมครั้งใหญ่นี้เกิดขึ้นหลังเกิดคลื่นลมแรงถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงพัดถล่มพื้นที่หลายพื้นที่ทางตอนเหนือของอิตาลี จนต้นไม้โค่นล้ม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 รายในเมืองเนเปิลส์ ลาซิโอ และลิจูเรีย ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ในกรุงโรมก็ถูกสั่งปิดเช่นกัน รวมถึงโคลอสเซียมและโรมันฟอรัมด้วย ด้านเจ้าหน้าที่คมนาคมประกาศปิดระบบขนส่งทางน้ำแล้ว ยกเว้นระบบขนส่งของเกาะที่ห่างไกล

นายลุยจิ บรูญาโน นายกเทศมนตรีเวนิสกล่าวว่า โครงการ "โมเสส" ก่อสร้าง แบริเออร์ใต้ทะเลสาบที่จะตั้งขึ้นมาเมื่อระดับน้ำเกิน 109 เซนติเมตร น่าจะสามารถป้องกันน้ำท่วมเช่นนี้ได้ และเขาได้ขอพบนายจูเซปเป คอนเต นายกรัฐมนตรีอิตาลีให้เร่งดำเนินการโครงการนี้อย่างเร่งด่วน แต่โครงการนี้ก็ถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าใช้งบประมาณสูงมาก และมีข่าวฉาวเกี่ยวกับการคอร์รัปชันด้วย

ที่มา : The Guardian, Daily Mail