ไม่พบผลการค้นหา
นายสาธิต ปิตุเตชะ อดีต ส.ส. ระยองหลายสมัย ปฏิเสธกระแสข่าวเป็นกลุ่มการเมืองที่กำลังถูกรัฐบาล คสช. ดูดออกจากประชาธิปัตย์ ยืนยันไม่มีความคิดย้ายพรรคอยูู่ในสมอง ตอกรัฐบาลไม่ฟังเสียงประชาชน ย้ายไปอยู่ด้วยแล้วใครจะเลือก

" อยู่ดีดีมีข่าวปรากฏว่ามีการทาบทามให้ผมย้ายจากพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่ทราบว่า เพราะด้วยเหตุผลอะไรอาจเป็นเพราะชลบุรีมีข่าวไปแล้วจึงมีคนพูดถึงจังหวัดระยองซึ่งอยู่ติดกัน" นายสาธิตตอบคำถามวอยซ์ออนไลน์ผ่านทางไลน์เนื่องจากเขากำลังติดภารกิจดูงาน การจัดการศึกษาของท้องถิ่น ที่ประเทศสิงคโปร์

ก่อนหน้านี้มีข่าวลือสะพัดว่า กลุ่ม ส.ส.ระยองซึ่งมีนายสาธิตเป็นแกนนำกำลังได้รับการทาบทามให้ไปร่วมงานการเมืองกับ คสช. เหมือนกลุ่มพลังชล ขณะที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ให้สัมภาษณ์วอยซ์ออนไลน์เมื่อช่วงเย็นโดยยืนยันความมั่นใจว่าจะไม่มีเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น และการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ต้องการคนที่มีอุดมการณ์ หวังผลระยะยาว

สอดคล้องกับที่นายสาธิตแกนนำกลุ่ม ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ในจังหวัดระยองตอบว่า ไม่มีความคิดจะย้ายพรรคอยู่ในสมอง และตนเองเป็นคนที่เติบโตมาจากพรรคประชาธิปัตย์ จาก ส.ส. จนเป็นกรรมการบริหารพรรคและรองหัวหน้าพรรค ซึ่งหากอยู่พรรคอื่นก็คงไม่มีโอกาสเติบโตเช่นนี้เพราะเป็น ส.ส.บ้านนอกและไม่ได้มีเงินมากพอจะดูด ส.ส. เป็นมุ้งหรือเป็นก๊วน

"ผมเริ่มต้นและเติบโต ในพรรค"ประชาธิปัตย์"จากเป็น ส.ส.สมัยแรกและเติบโตมาเป็น กกบห ของพรรค มีตำแหน่งทางการเมืองตามลำดับ สุดท้ายในตำแหน่ง รองหัวหน้าพรรค ซึ่งผมเข้าใจว่าถ้าผมอยู่พรรคการเมืองอื่น คงเป็นไปได้ยากมากเพราะผมเป็น ส.ส. บ้านนอก ไม่ได้มีเงินมากมายที่จะดูแล ส.ส. เป็นมุ้งหรือก๊วนซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่มีนโยบายแบบนั้นอยู่แล้ว และก็ไม่มีเงินมากมายเพื่อบำรุงพรรค แต่เพราะผมอยู่พรรคการเมืองที่ชื่อ"ประชาธิปัตย์" ซึ่งเป็นสถาบันทางการเมืองมีความเป็นประชาธิปไตยภายในพรรค ผมได้รับการเลือกตั้งจาก เพื่อนๆ ส.ส. ด้วยกัน อดีต รมต ของพรรค ประธานสาขาพรรค ตัวแทนท้องถิ่นและ ตัวแทนสมาชิกพรรค จากทั่วประเทศเลือกตั้งผมมาให้มีตำแหน่ง "รองหัวหน้าพรรค" ซึ่งผมมีความภาคภูมิอย่างมากที่ได้รับการ เลือกตั้งในตำแหน่งนี้ จึงพูดได้เลยว่าเรื่องการย้ายพรรคไปจากพรรค"ประชาธิปัตย์" คงไม่มีทางเป็นไปได้เลย"

นายสาธิตกล่าวด้วยว่าจากรับฟังเสียง ความรู้สึกของประชาชนส่วนใหญ่ทั้งใน จ.ระยองเองและทั่วๆไปสะท้อนได้ถึงความเดือดร้อน ในเรื่องเศรษฐกิจ ปากท้อง การทำมาหาก���น รายได้ต้องลดลง บางรายต้องตกอยู่ในสภาวะเป็นหนี้เป็นสิน มีความยากลำบากในการทำมาหากิน ในขณะค่าใช้จ่ายก็ไม่ได้ลดลง แต่รัฐบาลไม่รับฟังเสียง ทำให้ประชาชนเจ็บช้ำน้ำใจ หากย้ายพรรคไปร่วมงานการเมืองด้วย ก็คงไม่มีประชาชนเลือก

"รัฐบาลไม่ยอมรับฟังเสียงความเดือดร้อนของพวกเขา เขาเสียใจเจ็บช้ำน้ำใจจากการที่สนับสนุน รัฐบาลท่าน พล.อ ประยุทธ์ในตอนแรกที่เข้ามามีอำนาจ หวังให้ทำเรื่องที่สำคัญให้ประเทศถึงแม้เขาจะยากจนก็ตามเช่น เรื่องปราบทุจริต แก้เรืองความขัดแย้งของคนในชาติ และปฏิรูปประเทศด้านสำคัญๆ แต่ปรากฏว่าไม่เกิดขึ้นเลยหลังจากผ่านมาแล้ว 4 ปีเต็มๆ แถมยังมีข่าวหนาหูและปรากฏหลักฐานในคนใกล้ตัวว่ากลับเป็นเสียเอง อันนี้ยิ่งทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เสียใจ อย่างมาก"

"แล้วถ้าผมย้ายพรรคไปอยู่กับพรรคการเมืองที่เกิดขึ้นมาเพื่อสนับสนุน พล.อ ประยุทธ์ เป็นนายกอีกรอบ แถมทำตัวว่าทำท่า จะมีลักษณะพฤติกรรมการเมืองแบบเก่า ที่ท่านประยุทธ์เคยด่าว่าเป็น นักการเมืองเลว และยังส่อจะเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่นในหลายๆเรื่องอีก แล้ว จะมีประชาชนที่ไหนมาเลือกผมละครับ ถามจริงๆ" นายสาธิตกล่าวทิ้งท้าย