ไม่พบผลการค้นหา
ผลการสอบสวนระบุว่า องค์กรและสถาบันต่างๆ ของออสเตรเลีย ล้มเหลวที่จะป้องกันเด็กจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศ รวมถึงโรงเรียนและโบสถ์คาทอลิก

คณะกรรมการตรวจสอบเกี่ยวกับการจัดการกับการล่วงละเมิดทางเพศเด็กของสถาบันต่างๆ ในออสเตรเลีย ได้ออกรายงานการสอบสวนฉบับสมบูรณ์ หลังจากใช้เวลานานถึง 5 ปีในการสอบสวนเด็กที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมามากกว่า 8,000 คนทั่วประเทศ รายงานดังกล่าวระบุว่า มีเด็กถูกล่วงละเมิดหลายหมื่นคนภายในองค์กรและสถาบันทางสังคมสำคัญๆ กว่า 4,000 แห่ง ตั้งแต่โรงเรียน โบสถ์คริสตจักร ไปจนถึงสปอร์ตสคลับ ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงมาก ซึ่งร้อยละ 61.4 ของเด็กที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศเกิดขึ้นในโบสถ์คาทิลิก โดยรายงานดังกล่าวระบุว่า ตัวเลขที่สูงมากแสดงให้เห็นว่า หน่วยงานและสถาบันต่างๆ ในออสเตรเลียต่างล้มเหลวอย่างร้ายแรง ในการปกป้องเด็กจากการล่วงละเมิดทางเพศ อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการสอบสวนระบุว่า ตัวเลขของผู้ที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศอาจมีมากกว่าที่สามารถตรวจสอบได้อีกมาก

คณะกรรมการตรวจสอบยังได้เขียนคำแนะนำเกี่ยวกับการปกป้องเด็กจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศเพิ่มจากรายงานฉบับก่อนอีก 189 ข้อ รวมเป็นทั้งหมด 409 ข้อ รวมถึงข้อเรียกร้องให้คริสตจักรโรมันคาทอลิกปฏิรูปกฎเกณฑ์เกี่ยวกับการงดจาก การร่วมประเวณีของนักบวช และเสนอกฎหมายบังคับให้ผู้นำทางศาสนารายงานต่อเจ้าหน้าที่รัฐ เมื่อพบการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก รวมถึงนักบวชที่ไปสารภาพผิดว่าล่วงละเมิดทางเพศเด็กด้วย

ด้านนายมัลคอล์ม เทิร์นบูล นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียแสดงความเห็นว่า รายงานฉบับดังกล่าวถือเป็นการเปิดโปง "โศกนาฏกรรมแห่งชาติ" และเขาขอบคุณและยกย่องความกล้าหาญของผู้ถูกล่วงละเมิดทางเพศและครอบครัวที่ ให้ข้อมูลในรายงานนี้ ขณะที่อาร์คบิชอปแอนโธนี ฟิเชอร์กล่าวว่า ไม่ว่าจะต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ก็ตาม ก็ควรต้องตระหนักเรื่องนี้อย่างเต็มที่ ต้องพร้อมจะทำทุกทางเพื่อเยียวยา และนำความยุติธรรมมาให้ผู้ถูกล่วงละเมิดทางเพศ พร้อมระบุว่า คริสตจักรเริ่มจัดการปัญหานี้แล้ว