เจฟ เบซอส เจ้าของธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง 'แอมะซอน' ถูกจัดอันดับให้เป็นบุคคลที่มีทรัพย์สินมากที่สุดในโลกประจำปี 2017 สืบเนื่องจากผลประกอบการที่เติบโตกว่า 59 เปอร์เซ็นต์ในปีที่ผ่านมา โดยมีทรัพย์สินทั้งหมด 112,000 ล้านดอลลาร์ แต่ทั้งนี้หลังจากที่มีการประกาศไปหุ้นของแอมะซอนพุ่งขึ้นไปอีก ทำให้เบซอส มีทรัพย์สินรวมกันตอนนี้ประมาณ 127,000 ล้านดอลลาร์ แซงหน้า บิล เกตต์ เจ้าพ่อแห่งวงการไมโครซอฟที่ครองอันดับ 1 มา 6 ปีติดต่อกัน ตอนนี้บิล เกตต์ มีทรัพย์สินทั้งหมด 9 หมื่นล้านดอลลาร์
ฟอร์บสรายงานว่า เบซอสเป็นบุคลลที่มีทรัพย์สินมากที่สุดเท่าที่ฟอร์บเคยจัดอันดับมาตั้งแต่ปี 1987
นักลงทุนในตำนานอย่าง วอเรน บัฟเฟต อยู่ในอันดับที่ 3 มีทรัพย์สิน 84,000 ล้านดอลลาร์ และที่ 4 เป็นเจ้าพ่อแห่งวงการแฟชั่นยุโรป เบอร์นาร์ด อาร์โนลด์ เจ้าของอาณาจักรหลุยส์วิตตอง และในปีที่ผ่านมาเขาเพิ่งได้ซื้อกิจการของคริสเตียน ดิออร์มาไว้ในกำมือ ทำให้ก้าวขึ้นมาเป็นบุคคลที่มั่งคั่งที่สุดในยุโรป มีมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมด 72,000 ล้านดอลลาร์ และเป็นชาวยุโรปคนแรกที่ติด 1 ใน 4 ของบุคคลที่รวยที่สุดในโลกตั้งแต่ปี 2012 ขณะที่มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก เจ้าของเฟซบุ๊กอยู่ในอันดับที่ 5 มีทรัพย์สินทั้งหมด 71,000 ล้านดอลลาร์
สองนักธุรกิจจากจีนแผ่นดินใหญ่ไต่ขึ้นมาอยู่บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก 20 อันดับแรกเป็นครั้งแรก โดยหม่าฮัวเต็ง หรือโพนี่ หม่า ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของกิจการเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในจีนอย่าง We Chat ก้าวขึ้นเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในเอเชีย และอยู่ในอันดับที่ 17 ของโลก
ล่าสุด โพนี่ หม่า ได้รับเชิญเข้าร่วมประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีนเพื่อเป็นตัวแทนสะท้อนความเห็นจากภคธุรกิจของจีน และแจ็ค หม่า เจ้าของกิจการอีคอมมเมิร์ช อะลีบาบาก็ติดในลำดับที่ 20 ของบุคคลที่มั่งคั่งที่สุดในโลก โดยในปีที่ผ่านมาอะลีบาบามีการขยายตัวของธุรกิจกว่า 76 เปอร์เซ็นต์
สำหรับไทยเอง 'เจริญ สิริวัฒนภักดี' เป็นบุคคลที่มั่งคั่งที่สุดในไทย มีทรัพย์สินทั้งหมด 17,900 ล้านดอลลาร์อยู่ในอันดับที่ 65 ของโลก และ 'ธนินทร์ เจียรวนนท์' มีทรัพย์สินรวม 14,900 ล้านดอลลาร์อยู่ในลำดับที่ 95 ของโลก
ฟอร์บสยังรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ มีทรัพย์สินลดลงจากปีที่ผ่านมา โดยในปีนี้ทรัมป์อยู่ในอันดับที่ 766 จาก 544 ในปีที่ผ่านมา มีทรัพย์สินทั้งหมด 3,100 ล้านดอลลาร์
จากการจัดอันดับทั้งหมดพบว่า มหาเศรษฐีจากสหรัฐฯยังคงติดอันดับมากที่สุดคือ 585 คน ตามมาด้วยมหาเศรษฐีจากจีน 373 คน และมีมหาเศรษฐีหน้าใหม่จากวงการสกุลเงินดิจิทัล 5 คนรวมอยู่ในกลุ่มมหาเศรษฐีหน้าใหม่ที่มีถึง 259 คน
ที่มา: Forbes