เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2561 ที่โรงงานกำจัดขยะมูลฝอยเทศบาลตำบลเกาะเต่า ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี นายเกริกไกร สงธานี นายอำเภอเกาะพะงัน เดินทางไปดูขั้นการบีบอัดขยะพร้อมกับซีลด้วยพลาสติกใส 3 ชั้น และบรรจุใส่ถุงบิ๊กแบ็ค เพื่อนำขยะอัดก้อนนี้ขนส่งทางเรือจากเกาะเต่าไปที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และขนส่งต่อทางรถบรรทุก 18 ล้อ ไปกำจัดที่โรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าจังหวัดขอนแก่น
สำหรับขั้นตอนการบีบอัดขยะจะใช้เครื่องจักรบีบอัดด้วยแรงอัด 300 บาร์ ขยะทุกชนิดจะถูกอัดเป็นก้อน โดยใช้ลวดพันที่ตัวก้อนขยะโดยรอบ พันด้วยพลาสติกใส่ 3 ชั้น ก่อนนำไปใส่ถุงบิ๊กแบ็คกันน้ำ ขยะแต่ละก้อนจะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 1,600 – 2,000 กิโลกรัม และภายใน 1 วันสามารถบีบอัดขยะได้มากกว่า 300 ก้อน
นายเกริกไกร เปิดเผยว่า ขยะบนเกาะเต่าสะสมมาตัั้งปี พ.ศ. 2552 สาเหตุมาจากเตาเผาขยะเสีย ซ่อมแล้วไม่สำเร็จ ในฐานะผู้กำกับดูแลส่วนท้องถิ่นจึงทำหนังสือถึงเทศบาลตำบลเกาะเต่าให้ยกเลิกการว่าจ้างที่ยาวนานและไม่สำเร็จนี้ จากนั้นจึงเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดในสมัยนั้นมาดูขยะที่ต้องค้างอยู่กว่า 50,000 ตัน และหารือในระดับจังหวัดโดยได้ข้อสรุปว่าจะใช้วิธีการขนออกนอกเกาะ หลังจากมีการจัดซื้อจัดจ้างเสร็จแล้วจะมีการขนขยะประมาณ 300 ตันออกนอกเกาะเป็นครั้งแรก
“ขอให้ประชาชนมั่นใจได้เลยเราผ่านขั้นตอนสิ่งแวดล้อมหมดแล้ว จะเห็นได้ว่ามีการใส่ถุงเรียบร้อย มีการซีลเรียบร้อย จะไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ในการขนขยะออกครั้งนี้ พี่น้องชาวเกาะเต่า เกาะพะงัน และเกาะสมุย ต่างดีใจที่นำขยะออกนอกเกาะ เพราะหลังจากนี้เกาะสมุยก็อาจจะต้องใช้วิธีขนออกเช่นกัน " นายเกริกไกร นายอำเภอเกาะพะงัน กล่าว
ทั้งนี้เกาะเต่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดสุราษฎร์ธานี และเป็นแหล่งดำน้ำที่งดงามติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ทำให้มีปริมาณขยะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ที่ผ่านมาเกาะเต่าใช้วิธีกำจัดขยะด้วยเตาเผา แต่ต้องมาเจอปัญหาใหญ่ คือ เตาเผาขยะชำรุดจนไม่สามารถเดินเครื่องได้ ส่งผลให้มีปริมาณขยะตกค้างกว่า 50,000 ตันและมีขยะเข้าใหม่อีกทุกวันจนสะสมล้นออกมาด้านนอก