นายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากกรณีที่เกิดเหตุการณ์อุบัติเหตุทางรถยนต์ที่กำลังเป็นข่าวอยู่ตอนนี้นั้น #ธัญบุรี เป็นอุบัติเหตุที่ไม่ควรเกิดขึ้นเลยจริงๆ ผมขอเป็นกำลังใจให้กับผู้บาดเจ็บ ขอให้ปลอดภัยและหายในเร็ววันนะครับ
ในส่วนของคู่กรณีก็ขอให้เป็นเรื่องของตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นอกจากนั้นในกรณีที่มีการโยงถึงทางพรรคเพื่อไทย ต้องเรียนแจ้งว่า คู่กรณีคนดังกล่าวเป็นนักการเมืองท้องถิ่น ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทยแต่อย่างใด ขอทุกท่านอย่านำเรื่องดังกล่าวมาโยงกับการเมือง หรือ ท่านอดีตนายกฯ ทักษิณ และ นายกฯ แพทองธาร พวกเรามาร่วมเป็นกำลังใจให้กับผู้บาดเจ็บดีกว่าครับ
กรณีคลิปรถยนต์ BMW ป้ายแดงขับปาดหน้ากระบะ จนเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุ ทำให้ผู้โดยสารในรถกระบะบาดเจ็บสาหัส
สำหรับคนขับรถยนต์ BMW ป้ายแดง สื่อหลายสำนักรายงานว่าเป็น 'พีช สมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์' ลูกของนักการเมืองท้องถิ่น 'นายกเบี้ยว' นายกฤษฎา หลีนวรัตน์ง นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี โดย นายกเบี้ยว ได้เผยกับสือว่า โทรไปเช็กกับเพื่อนลูกชาย และทราบว่าลูกชายประสบอุบัติเหตุบนทางหลวงโดยรถของลูกถูกเฉี่ยวก่อน ทั้งนี้ขณะเกิดเหตุได้มีความพยายามตามประกบเพื่อให้รถคู่กรณีจอด ไม่ได้จะขับไล่ตบรถคู่กรณี นายกเบี้ยว เผยว่าจากนี้จะขอกล้องวงจรปิดของทางหลวงมาดู และเช็กไปยังโรงพักที่รับผิดชอบพบว่า 'ยังไม่ได้มีการแจ้งความอะไร ถ้าผิดจริงจะยอมรับ'
ด้าน พันตำรวจเอก กึกก้อง ดิศวัฒน์ ผู้กำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบกล้อง พบว่า จังหวะที่ขับมาถึงจุดเกิดเหตุ รถกระบะขับอยู่ช่องทางที่ 2 จากขวาสุด แล้วได้มีการขับเปลี่ยนเลนไปช่องทางขวาสุดกะทันหัน ลักษณะเป็นการขับรถตามประสาคนแก่ ทำให้ไปปาดหน้ารถบีเอ็มสีขาวป้ายแดง ที่ขับมาช่องทางขวาสุด รถบีเอ็มจึงหักหลบ จนไปชนกับขอบทางด้านขวา หลังจากนั้น รถบีเอ็มจึงพยายามขับปาดคืน ตามภาพที่ปรากฎในคลิปจนเกิดอุบัติเหตุขึ้น
สำหรับอาการบาดเจ็บของ ลุงคนขับกระบะ ได้รับบาดเจ็บที่หน้าอก กระแทกกับพวงมาลัย และถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลบางปะกอก-รังสิต ส่วนคุณป้าไม่เป็นอะไร ด้านพนักงานสอบสวนจะเข้าไปเยี่ยมคนเจ็บที่โรงพยาบาล เพื่อฟังผลจากแพทย์ว่า อาการของคุณลุงเป็นอย่างไร
สำหรับคดีจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรกคือ รถกระบะ เปลี่ยนเลนกะทันหัน ทำให้รถบีเอ็มหักหลบและเฉี่ยวชน จะเข้าข่ายความผิดฐานขับรถโดยประมาทจนทำให้ทรัพย์สินเสียหาย มีโทษเปรียบเทียบปรับ
ส่วนที่ 2 คือรถบีเอ็มพยายามเอาคืน อาจเป็นเพราะอารมณ์ จะเข้าข่ายขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น มีโทษจำคุก 3 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท และหากคุณลุงบาดเจ็บสาหัส ก็จะมีเข้าข่ายการประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสด้วย
ทั้งนี้ เมื่อวานนี้หลังเกิดเหตุ คนขับรถบีเอ็มได้มาแสดงตัวที่สถานีตำรวจแล้ว แต่ต้องรอนัดมาสอบปากคำ ทั้ง 2 ฝ่าย และต้องรอผลแพทย์ด้วย จึงจะแจ้งข้อกล่าวหาได้ ซึ่งวันนี้ได้ติดต่อไปทางคนขับบีเอ็ม แต่เจ้าตัวยังไม่รับสาย
พันตำรวจเอกกึกก้อง ยืนยันว่า 'ตำรวจจะทำตามข้อเท็จจริง ไม่มีการช่วยเหลือ ผิดก็ว่าไปตามผิด แม้ว่าจะเป็นลูกหลานนักการเมือง'