การเมือง
โดมิโน่ยิงรถ ! 'วิระชัย' เข้ากรุ 'ประวิตร' สยบเสี้ยม - อนุโมทนา 'พระโจ๊ก'
ที่เป็นบทสนทนาระหว่าง 'บิ๊กต้อย-พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา' รอง ผบ.ตร. กับ 'บิ๊กแป๊ะ-พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา' ผบ.ตร. ภายหลังมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน
"แม้แต่การเอาเทปมาออกมันผิดหรือเปล่า มันบันทึกเสียงกันได้ไหม ใครเป็นคนเอาไปออก เขาสอบหมดนั่นแหละ เขากำลังตั้งคณะกรรมการสอบอยู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวเมื่อวันที่ 14 ม.ค. 2563
ซึ่ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ก็ยอมรับว่า กรณี พล.ต.อ.วิระชัย มาจาก 'คลิปเสียงหลุด' หลังตนได้เสนอไปยังสำนักนายกฯ ให้มีการพิจารณากรณีนี้ จริงๆ แล้วเป็นเรื่องของการมีเอกภาพในการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ รอง ผบ.ตร. ดังกล่าว หากดำรงตำแหน่งเกรงว่าจะมีอุปสรรคปัญหา
เรื่องนี้เป็น 'โดมิโน่' จากกรณียิงรถ 'บิ๊กโจ๊ก' เพราะในคลิปเสียงตอนหนึ่ง 'บิ๊กแป๊ะ' ได้กล่าวเตือน พล.ต.อ.วิระชัย ไม่ให้เข้าไปยุ่งคดีดังกล่าว โดยให้เป็นเรื่องของ 'น.1' หรือ ผบช.น. แล้วรายงานกลับมา โดย 'บิ๊กแป๊ะ' ได้กล่าวเป็นนัยอีกว่า ไม่ต้องออกไปแถลงข่าวเหมือน 'เตี๊ยม' กันมา
พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ยังลงนามคำสั่งเด้ง 'บิ๊กช้าง-พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย' รองผบ.ตร. เข้ากรุศูนย์ปฎิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยขาดจากการปฎิบัติหน้าที่จากตำแหน่งเดิม ซึ่ง 'บิ๊กแป๊ะ' ให้เหตุผลสั้นๆเพื่อ 'ความเหมาะสม' เท่านั้น
ซึ่ง พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ ถือเป็นนาย ตร.น้องเลิฟของ 'บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ' รองนายกฯ ด้วย
นอกจากนี้ สำนักราชเลขานุการในพระองค์ฯ มีหนังสือถึง ผบ.ตร. เรื่องโปรดเกล้าฯ ให้นายตำรวจชั้นสัญญาบัตรพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ 'นายตำรวจราชองครักษ์' 2 นาย คือ พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย และ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา ตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค. 2563
ส่วน 'บิ๊กโจ๊ก' ได้รับคำสั่งทั้งเตือนและทั้งปรามจาก 'บิ๊กตู่' โดยออกคำสั่งนายกฯ ให้ข้าราชการรักษาจรรยาและวินัยข้าราชการ เช่น ไม่ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ไม่ทำทุจริต ไม่รายงานเท็จต่อผู้บังคับบัญชา ไม่ปฏิบัติราชการข้ามผู้บังคับบัญชาเหนือตน ไม่แสวงหาประโยชน์ ไม่กลั่นแกล้ง กดขี่ ข่มเหง ในการปฏิบัติราชการ รักษาความลับของราชการ มีความสุภาพ รักษาความสามัคคี เป็นต้น
เหตุผลของการออกคำสั่งเตือนดังกล่าว ไม่มีใครรู้ถึง 'สาเหตุ' ที่แน่ชัดว่า 'บิ๊กตู่' ต้องการอะไร
แต่ นายกฯ ระบุเพียงสั้นๆ ว่า "ออกแล้ว ก็คือ ออกแล้ว" หลังถูกถามย้ำถึงการออกคำสั่งเตือนนั้น
สิ่งที่เกิดขึ้นกับ 'บิ๊กโจ๊ก' ทำให้มีการตีความว่าเกิดรอยร้าวระหว่าง '2 ป. ประยุทธ์-ประวิตร' หลัง นายกฯ ขึ้นนั่ง ประธาน ก.ตร. เองแล้วคุมเบ็ดเสร็จ อีกทั้ง 'บิ๊กโจ๊ก-บิ๊กแป๊ะ' ถือเป็นน้องรักของ 'บิ๊กป้อม' แน่นอนว่า พล.อ.ประวิตร ออกมาสยบกระแสทั้งหมดว่าเลิกพูดไปได้เลย
"ซึ่งเรื่องของผมกับนายกฯ ไม่มีอะไร ขอให้เลิกพูดถึง อยู่กันมาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่เป็นยศร้อยเอก ร้อยตรี อยู่กันมาตลอด จนเกษียณอายุ จะมาเอาอะไรอีก หยุดพูดเรื่องนี้ได้" พล.อ.ประวิตร กล่าว
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ยอมรับว่าได้พูดคุยกับ นายกฯ ก่อนมีการออกคำสั่งเตือน 'บิ๊กโจ๊ก' ออกมาด้วย แน่นอนว่าเรื่องนี้ 'บิ๊กป้อม' ย่อมรับรู้มาตั้งแต่ต้น โดยในช่วง 2 สัปดาห์มานี้ 'บิ๊กโจ๊ก' ก็นิ่งเงียบไป ก่อนจะมีข่าวว่าบินไปประเทศอินเดีย เพื่ออุปสมบททดแทนคุณบิดามารดา 9 วัน ที่วัดไทยพุทธคยา โดยได้รับฉายาว่า "สุรเชฏฺฐโพธิ" แปลว่า ผู้มีปัญญาเครื่องตรัสรู้ซึ่งเจริญที่สุดด้วยความกล้าหาญ
ทว่าที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร กลับเลี่ยงตอบกรณี 'บิ๊กโจ๊ก' ว่าไม่ต้องถึงมือตนในการไปเคลียร์ เพราะเชื่อว่าทั้ง 'บิ๊กแป๊ะ-บิ๊กโจ๊ก' เป็นพี่น้องกัน ก็จะคุยกันได้ รวมทั้งก่อน 'บิ๊กโจ๊ก' ไปบวชว่า "ไม่ได้มาลา เขาจะมาลาผมเรื่องอะไร"
พร้อมกันนี้ พล.อ.ประวิตร ยังออกตัวว่าไม่ได้เจอ 'บิ๊กโจ๊ก' มานานแล้ว นับตั้งแต่มีคำสั่งพ้นข้าราชการ ตร. แล้วมาเป็นข้าราชการพลเรือน ในตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษสำนักนายกฯ เมื่อเม.ย.2562 นั่นเอง
"ไม่ได้เจอกันเลย ไม่เจอกันตั้งนานแล้ว เขาก็ไปทำงานของเขา แต่ก่อนนี้ก็อยู่กับผม ตอนหลังนี้ก็ออกไป เขาก็ไปทำงานของเขา เกี่ยวอะไรกับผม" พล.อ.ประวิตร กล่าว
การไปบวชของ 'บิ๊กโจ๊ก' จึงเกิดคำถามต่างๆ ตามมา โดยเฉพาะชะตากรรมต่างๆ ที่เผชิญเกือบ 1 ปีที่ผ่านมา รวมทั้งอนาคตของ 'บิ๊กโจ๊ก' จะเป็นอย่างไรต่อไป
อีกทั้งมีเหตุผลอื่นในการไปบวชอีกหรือไม่ นอกจากทดแทนคุณบุพการี ท่ามกลางการจับนัยยะต่างๆ ของสังคม ต่อการบวชของ 'บิ๊กโจ๊ก' ครั้งนี้ ที่หนีไม่พ้นเหตุการณ์ 'โดมิโน่' ต่างๆ ที่เกิดขึ้น
อนุโมทนา สาธุ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
