นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยและ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ และนายชัย ชิดชอบ พร้อมด้วย ส.ส. 17 คน เดินทางมารายงานตัวที่รัฐสภาใหม่ โดยนายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้ารายงานตัว ยอมรับว่ามีการพูดคุยทางไลน์กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์จริง แต่เป็นการคุยเรื่องข่าวสารและแซวกันเล่นๆ ไม่มีอะไรจริงจัง และเมื่อวานนี้ (15 พ.ค.) ตนได้โทรไปแสดงความยินดีกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ และฝากให้เลขาธิการพรรคแสดงความยินดีกับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ แต่ยังไม่ได้คุยกันเป็นการส่วนตัว พร้อมปฏิเสธกระแสข่าวว่าไม่ได้พูดคุยกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี หรือคนอื่นๆ เรื่องการจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงยังไม่ได้ต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี โดยเฉพาะกระทรวงคมนาคม โดยให้เหตุผลว่า ตนเป็นพรรคลำดับที่ 5 ต้องเจียมเนื้อเจียมตัว และวันที่ 19-20 พ.ค.นี้ พรรคจะมีการปฐมนิเทศน์และประชุม ส.ส. และกรรมการบริหารพรรคเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากการที่ทุกคนไปพูดคุยถึงความต้องการของประชาชนมา เพื่อขอฉันทามติให้หัวหน้าพรรคและเลขาธิการได้มีสิทธิ์ตัดสินใจกำหนดทิศทางการเมือง
นายอนุทิน ยอมรับว่า ตอนนี้พรรคกดดันและคิดหนักมาก เพราะมีการแบ่งขั้วการเมืองเป็น 2 ฝ่ายคือ เผด็จการ และประชาธิปไตย ทำให้พรรคสายกลางอย่างพรรคภูมิใจไทยมีความกดดัน ขอให้ยุติการแบ่งฝ่าย เพราะผ่านการเลือกตั้งโดยประชาชนมาแล้ว ตอนนี้ทุกคนทุกเสียงสำคัญหมด ทุกพรรคต้องพึ่งพากัน แต่ยอมรับว่าตอนนี้ยังไม่มีพรรคใดมาสู่ขออย่างเป็นทางการ พรรคภูมิใจไทยยึดเจตนารมณ์ 4 ข้อได้แก่ เทิดทูนสถาบัน, ไม่สร้างความขัดแย้ง, ตั้งใจทำงานเพื่อประชาชน, ทำให้ประเทศเจริญรุ่งเรือง แต่ตอนนี้ยังไม่มีพรรคใดตอบโจทย์
ทั้งนี้ นายอนุทิน ยอมรับว่า การเป็นพรรคลำดับที่ 5 จึงไม่สามารถเป็นตัวตั้งตัวตีในการจัดตั้งรัฐบาลได้ แม้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย จะเสนอตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมให้ หากมาร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้ต้องมีมารยาทให้พรรคแกนนำที่ได้คะแนนสูงจัดตั้งไปก่อน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการจัดตั้งรัฐบาลขั้วที่ 3 นายอนุทิน ตอบว่า ไม่เคยเกิด คงไม่เกิด และอย่าให้ถึงขั้นนั้น พรรคแกนนำต้องพยายามจัดตั้งรัฐบาลกันให้ได้ และไม่ตอบว่าพร้อมจะเป็นนายกรัฐมนตรีจากกลุ่มการเมืองขั้วที่ 3 หรือไม่ ส่วนกรณีการโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า "ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ประชาชน ไปทางนี้แหละไม่มีหลงทาง" ตนไม่ได้สื่อความหมายใดเป็นพิเศษ แต่เมื่อวานไปไหว้พระมา ก็เลยคิดว่าจะไปทางนี้ ส่วนที่เมื่อวานได้แก้ไขข้อความเพิ่มคำว่าปาะชาชนลงไป เพราะมีคนทักท้วง แต่ส่วนตัว คำว่าชาติในความหมายของตน รวมประชาชนไปอยู่แล้ว