อธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากกรณีที่เกิดเหตุเรือเฟอร์รี่บรรทุกสินค้า ของบริษัทราชาเฟอร์รี่ล่มที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2563 และเรือบริการนำเที่ยวไฮซีซั่น 1 ล่มในแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 2563 ขณะนี้กรมเจ้าท่าได้มีการตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว คาดว่าจะสรุปได้ภายใน 7 วัน
โดยในการตรวจสอบเบื้องต้น กรณีของเรือไฮซีซั่น 1 พบว่าสาเหตุเกิดจากน้ำรั่ว ซึ่งในส่วนการตรวจสอบใบอนุญาตประกอบการ ใบอนุญาตขับเรือ รวมถึงเรือ 3 ชั้น ดำเนินการถูกต้อง แต่เบื้องต้นได้สั่งงดให้บริการเป็นการชั่วคราวแล้ว โดยวันนี้ (3 ส.ค.) จะมีการกู้ซากเรือเพื่อตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง
ส่วนกรณีของเรือเฟอร์รี่ ของบริษัทราชาเฟอร์รี่ ดำเนินการฝ่าฝืนคำสั่งประกาศของกรมเจ้าท่า ดังนั้นต้องมีการดำเนินการตามความผิดต่อไป
ทั้งนี้ได้ให้กรมเจ้าท่าดำเนินการตรวจสอบมาตรฐานเรือบริการใหม่ทั้งประเทศ ทั้งเรือบริการในทะเล และเรือบริการในแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อตรวจสอบโครงสร้างของเรือ รวมถึงการอนุญาตดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกันและสร้างความปลอดภัยให้กับผู้โดยสารและนักท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตามยืนยันว่า กรมเจ้าท่ามีการตั้งคณะทำงานตรวจสอบเรือทั้งหมดอยู่แล้ว หลังจากเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เรือต้องหยุดบริการ ซึ่งอาจกระทบต่อโครงสร้างของเรือ รวมถึงการกลับมาเปิดให้บริการที่อาจพบฝ่าฝืน
ขณะเดียวกัน วันนี้ (3 ส.ค. 2563) กรมเจ้าท่า ร่วมกับสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข ได้ลงนามบันทึกความร่วมมือการคุ้มครองสิทธิในการเข้าถึงระบบการแพทย์ฉุกเฉินทางน้ำ การพัฒนา และฝึกอบรมร่วมกันเพื่อขยายขอบเขตการพัฒนาระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินให้ครอบคลุมถึงระบบการแพทย์ฉุกเฉินทางน้ำให้มีคุณภาพมาตรฐาน รวมทั้งมีความทันสมัย ทันเหตุการณ์ สามารถช่วยเหลือผู้ประสบเหตุประสบภัยทางน้ำได้ทันเวลา