วันที่ 8 พฤษภาคม 2566 ที่ทำการพรรคเพื่อไทย โดย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะนโยบายพรรคเพื่อไทย ประธานคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย เอกพร รักความสุข อดีตรัฐมนตรีช่วยกระทรวงแรงงาน และชานันท์ ยอดหงษ์ ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ร่วมรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะจากตัวแทนกลุ่มแรงงานนอกระบบ ได้แก่ สหพันธ์ผู้ค้าแผงลอยหาบเร่กทม. สมาพันธ์แรงงานนอกระบบ(ประเทศไทย) สมาคมเครือข่ายแรงงานนอกระบบ เครือข่ายลูกจ้างทำงานบ้านในประเทศ สมาคมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างแห่งประเทศไทย มูลนิธิเพื่อการพัฒนาแรงงานและอาชีพ และอาจารย์กฤษฎา ธีระโกศพงษ์ ม.ศิลปากร โดยได้รับฟังปัญหาจากกลุ่มต่าง ๆ ดังนี้

1. กลุ่มหาบเร่แผงลอย ต้องการพื้นที่เพื่อทำการค้าขาย ซึ่งการจัดสถานที่ในปัจจุบันไม่เอื้ออำนวยต่อการขายของ เนื่องจากไม่ใช่พื้นที่ที่ผู้คนจะสัญจรผ่าน

2.จัดตั้งกองทุนสำหรับแรงงานเพื่อการกู้ยืม เนื่องจากแรงงานบางส่วนไม่มีฐานรายได้ประจำ จึงไม่สามารถยื่นกู้กับทางธนาคารได้

3.ด้านสวัสดิการ การตรวจสุขภาพที่ตรวจปัญหาเจาะจงที่พบได้บ่อยในแต่ละอาชีพ และเรียกร้องให้มีการจัดทำประกันสังคมถ้วนหน้า ที่เป็นมาตรฐานสำหรับแรงงานทุกคน

เอกพร กล่าวว่า คนทำงานที่ถูกเรียกว่า "แรงงานนอกระบบ" แท้จริงคือ "กลุ่มเศรษฐกิจอย่างไม่เป็นทางการ" และเสนอว่าคนทำงานทุกคนควรได้รับการขึ้นทะเบียน เพื่อรับสวัสดิการและการคุ้มครองจากภาครัฐ และได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า "เมื่อพูดถึงแรงงานต้องพูดถึงชีวิตคน เมื่อพูดถึงสวัสดิการต้องพูดถึงศักดิ์ศรีความเป็นคนและหน้าที่ของรัฐ แต่รัฐบาลประยุทธ์ ทำให้ประชาชนเป็นขอทาน ด้วยคำว่าสวัสดิการแห่งรัฐ"

ชานันท์ ได้เสนอถึงประโยชน์จากการให้สัตยาบันอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ(ILO) ฉบับต่าง ๆ เช่น อนุสัญญา ฉ.190 ว่าด้วยการขจัดความรุนแรงและการคุกคามในโลกแห่งการทำงาน ซึ่งจะครอบคลุมในมิติเพศสภาพที่หลากหลาย ซี่งเป็นพื้นฐานในการคุ้มครองสิทธิและสวัสดิภาพของแรงงาน 

นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า การอำนวยความสะดวกในการยื่นข้อเรียกร้องต่าง ๆ จากกลุ่มแรงงานผ่าน platform และยังได้แนะนำถึงประโยชน์ของนโยบาย digital wallet ที่จะส่งผลไปยังทุก ๆ ภาคส่วน เพื่อให้คนทำงานทุกอาชีพมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น