นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ออกมาขู่ว่าจะตัดเงินช่วยเหลือประเทศที่ออกเสียงสนับสนุน 'มติต้านการรับรองนครเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล' ของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ โดยนายทรัมป์กล่าวว่า "พวกเขารับเงินหลายร้อยล้านดอลลาร์ หรือหลายพันล้านดอลลาร์จากเรา และจากนั้นพวกเขาก็ออกเสียงต่อต้านเรา ปล่อยให้พวกเขาออกเสียงต่อต้านเรา เราจะได้ประหยัดงบประมาณ เราไม่สนใจหรอก”
การขู่ของนายทรัมป์ในครั้งนี้ เกิดขึ้นก่อนการประชุมฉุกเฉินวาระพิเศษของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติในวันนี้ (21 ธันวาคม) ซึ่งเป็นการเรียกประชุมฉุกเฉินตามคำร้องของกลุ่มประเทศอาหรับและมุสลิมที่เกิดขึ้นไม่บ่อยครั้งนัก โดยประเทศสมาชิกยูเอ็นทั้ง 193 ประเทศ จะเข้าร่วมการประชุมและออกเสียงว่าจะรับรองมติของยูเอ็นที่มีใจความต่อต้านการรับรองนครเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลหรือไม่
แม้ในร่างมติของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ จะไม่ได้ระบุถึงสหรัฐฯ อย่างเฉพาะเจาะจง แต่ร่างมติฉบับนี้ ได้เขียนไว้อย่างชัดเจนว่า การตัดสินใจใดๆ ก็ตามเกี่ยวกับนครเยรูซาเลมควรถูกยกเลิก
ก่อนหน้านี้ นางนิกกี เฮลีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำยูเอ็นได้ออกมาขู่ว่า เธอได้รับคำสั่งจากนายทรัมป์ให้จดชื่อประเทศที่ออกเสียงรับรองมติฉบับนี้และรายงานต่อประธานาธิบดี ขณะที่ในการประชุมฉุกเฉินคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ได้ใช้สิทธิวีโตร่างมติของ UNSC ที่ระบุว่าการตัดสินใจใดๆ ก็ตามเกี่ยวกับสถานะของนครเยรูซาเลมไม่มีผลทางกฎหมาย แม้ประเทศสมาชิก UNSC ที่เหลืออีก 14 ประเทศจะรับรองมตินี้ก็ตาม