คุณภาพชีวิต
มท.1 ย้ำ 'จัดระเบียบทางเท้า' ไม่ได้ทำลาย 'สตรีทฟู้ด'
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณี 'กลุ่มเครือข่ายแผงลอยไทยเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน' เรียกร้องให้เร่งบรรเทาผลการจัดระเบียบแผงลอยทั่วกรุงเทพฯ ว่า เราเข้าใจว่าผู้ค้าได้รับความเดือนร้อนจากการไม่มีที่ทำกิน เข้าใจความลำบากของประชาชน แต่ต้องอยู่บนหลักเกณฑ์ข้อพิจารณา ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้บอกให้หาทางช่วยเหลือ แต่ต้องขอชี้แจงต่อสังคมว่า 'ทางเท้า' มีไว้ให้คนสัญจร ดังนั้น ถ้าให้คนไปค้าขายจะมีปัญหาในเรื่องกฎหมาย และสร้างความเดือดร้อนให้คนสัญจรด้วย
อย่างไรก็ตาม กทม. เคยแก้ปัญหาความเดือดร้อนของผู้ค้า ด้วยการจัดหาพื้นที่ใหม่ให้ทำการค้าแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ยอมไป แต่สิ่งสำคัญคือ ไปแล้ว เขาขายไม่ได้ ฉะนั้น จะต้องหาทางแก้ไข ว่าจะช่วยเหลืออย่างไรให้ประกอบอาชีพได้
"ถนนบางสาย จำเป็นต้องสะอาดเรียบร้อย เพราะกรุงเทพฯ เป็นเมืองหลวง ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณา และประชุมหารือกันต่อไป แต่ที่สำคัญถ้ากฎหมายผ่อนผัน อนุญาตให้ทำได้ ก็เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่ต้องดูแล เพราะหากเจ้าหน้าที่ไม่ดูแล และมีคนไปร้องเรียน ก็จะโดนข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่อีก ส่วนที่เรียกร้องให้มีการเยียวยา ตามกฎหมายไม่สามารถใช้กับกรณีนี้ได้ เพราะการเยียวยา ฝ่ายรัฐจะต้องเป็นผู้กระทำผิด แต่หากเปลี่ยนเป็นเรื่องการช่วยเหลือทำได้ ซึ่งกฎหมายต้องอนุญาตด้วย ทั้งนี้ เรากำลังดำเนินการเพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว โดยเฉพาะเรื่องของสุขอนามัยของอาหารที่นำมาขาย ก่อนจะนำเสนอนายกฯ ต่อไป" พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว
เมื่อถามว่า กรณีนี้จะขัดกับที่เมืองไทยเป็นเมืองสตรีทฟู้ดหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า "ไม่ขัด สตรีทฟู้ดไม่ได้หมายความว่า ให้ไปตั้งบนฟุตบาททุกแห่ง แบบนี้ไม่ใช่ สตรีทฟู้ด"
มีคนพิจารณาว่า น่าจะเป็นแบบร้านดังๆ ที่ไม่ใช่ภัตตาคารแต่อยู่ข้างถนน แต่ไม่ใช่ร้านที่อยู่บนฟุตบาท แล้วจะเรียกสตรีทฟู้ดหมด ขอให้ไปนิยามศัพท์มาใหม่ ตนถามกลับไปว่า คนที่ทำกับข้าวเข้าห้องน้ำที่ไหน ล้างมืออย่างไร ล้างจานอย่างไร ตอบได้ไหม ว่าสุขอนามัยเป็นอย่างไร ไม่ใช่พูดกันส่งเดช คนเขามาเที่ยวกันทั่วโลก และถ่ายรูปกลับไปด้วย
ด้าน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงแนวทางการจัดระเบียบทางเท้าว่า การเดินขบวนคาราวาน 'กรุงเทพขยับ' ในย่านถนนสีลม พบพ่อค้าแม่ค้าได้รับผลกระทบจากนโยบายของรัฐบาล คสช. ทำให้หมดโอกาสในการทำกิน รายได้ตก ส่วนผู้ซื้อที่มีรายได้ต่ำ ต้องจำใจเข้าไปซื้ออาหารในร้านที่ผูกขาดโดยกลุ่มทุนใหญ่ และยังทำให้เสน่ห์ของอาหารริมทาง หรือ 'สตรีทฟู้ด' ในกรุงเทพฯ หายไป
"การแก้ปัญหาที่ดีที่สุด คือการรับฟังความเห็นจากประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ตกลงหาทางออกร่วมกัน ซึ่งอาจจัดพื้นที่ใหม่ใกล้เคียงจุดเดิมให้ค้าขาย หรือแบ่งพื้นที่เดิมบางส่วนให้ เชื่อว่าทุกแนวทางเป็นไปได้หมด เพียงแต่ต้องอาศัยการมีส่วนร่วมจากทุกคน" นายธนาธร กล่าว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
