ไม่พบผลการค้นหา
"ผลศึกษายาสมุนไพร "เอ็น 040" รักษามะเร็งปากมดลูกได้ผลดี ไม่มีผลข้างเคียง ก้อนมะเร็งหาย จดอนุสิทธิบัตรเร่งพัฒนาเฟส 2 ต่อ ส่วนยามะเร็งตับ "สมุนไพรตำรับเบญจอำมฤตย์" ใกล้สำเร็จ เปิดรับอาสาทดลอง

วันที่23  ม.ค. 61 ภญ.มณฑกา ธีรชัยสกุล ผอ. สถาบันการแพทย์แผนไทย กล่าวว่า ผลการวิจัยยารักษามะเร็งปากมดลูก หรือยาเอ็น040 จากกลุ่มตัวอย่าง 32 คนพบว่าผู้ป่วย 16 คน หรือร้อยละ 50 ตอบสนองต่อยาได้ดี ในจำนวนนี้มี 4 คนหรือร้อยละ 30 ที่ก้อนมะเร็งหาย แต่ยังไม่สามารถระบุได้ชัดว่าการหาย ไปของก้อนเกิดขึ้นจากยาหรือไม่

ส่วนอีก 12 คน ตอบสนองต่อยาตามลำดับ อีก 16 คนที่เหลือมีความเปลี่ยนแปลงและมีระยะดำเนินโรคปกติ แต่โดยรวมยาดังกล่าวมีความปลอดภัยกับผู้ป่วยและผู้ป่วยมีผลตอบสนองดี

ทั้งนี้จากนี้จะศึกษาระยะ 2 ซึ่งเป็นการวิจัยทางคลินิกต่อไป เพื่อให้เห็นผลการรักษาที่ชัดเจนขึ้นดีขึ้น และมั่นใจว่าการหายของก้อนเนื้อมาจากยา โดยระยะที่ปลอดภัยที่สุดจะเริ่มใช้ในผู้ป่วยที่ไม่มีตัวเลือกในการรักษาหรือผู้ป่วยสุดท้าย ๆ ที่แพทย์แผนปัจจุบันไม่สามารถที่จะทำอะไรได้

 อย่างไรก็ตามต้องทำแนวทางการรักษาโรคมะเร็งหรือโปรโตคอลให้กับคณะกรรมการจริยธรรมในคนก่อนเพื่อพิจารณาว่าจะไม่ผิดหลักจริยธรรม ผู้ป่วยมีความปลอดภัยและอาสาสมัครต้องยินยอมพร้อมใจ

  สำหรับยาเอ็น040 เป็นหนึ่งในตำรับยาล้านนาที่ได้นำไปเปรียบเทียบกับยามาตรฐานแล้ว พบว่ามีศักยภาพ ในการรักษามะเร็งปากมดลูกได้เลยเอามาศึกษาต่อ โดยยาดังกล่าวมีส่วนผสมสมุนไพรประมาณ 10 ชนิด ได้แก่ เถามวกขาว หญ้าขัด ตับเต่าใหญ่ ถั่วพู ราชพฤกษ์ หนามโค้ง กางหลวง ตับเต่า สานเงิน และค้องเขาเขียว ซึ่งก่อนจะรับประทานได้ต้องผ่านกระบวนการผลิตมาในรูปแบบแคปซูล การบริโภคจะต้องได้รับการรักษาที่จำเป็นตามมาตรฐานอยู่ก่อนก่อนให้กินยาดังกล่าวตามน้ำหนักตัว และอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ส่วนผลข้างเคียงของยาเอ็น040 ที่ถือว่าเป็นยาใหม่นั้น จากการทดลองในเฟสแรกตรวจเลือดแล้วยังไม่พบผลข้างเคียงที่อันตราย มีเพียงอาการเวียนศีรษะเล็กน้อย

ทั้งนี้คาดว่าจะเริ่มเฟส 2 ได้ภายใน 1 ปี ซึ่งตอนนี้ ยาเอ็น040 ได้จดอนุสิทธิบัตรของกองทุนภูมิปัญญา ซึ่งอยู่ในสังกัดของกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกเพราะเป็นคนให้ทุนทำวิจัยที่มีการทำวิจัยมาตั้งแต่ปี 36

 นอกจากนี้  ภญ.มณฑกา กล่าวอีกว่า ส่วนโครงการพัฒนายารักษามะเร็งตับ หรือสมุนไพรในตำรับเบญจอำมฤตย์ ซึ่งที่ผ่านมามีการเก็บข้อมูลในผู้ป่วยกว่า 300 คน ยังไม่พบรายงานที่น่ากังวลว่ามีผลข้างเคียง จะมีเพียงท้องเสียซึ่งถือว่ามีความปลอดภัยสูง ตอนนี้กำลังรับอาสาสมัคร ผู้ป่วยมะเร็งตับ 81 คนเพื่อมาเข้าร่วมศึกษาต่อซึ่งขณะนี้มีผู้ร่วมโครงการ 12 คนทั้งนี้ผู้สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ที่โรงพยาบาลมะเร็งอุบลราชธานี.

 ส่วนความคืบหน้า ยาสมุนไพรหมอแสง นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวถึงความคืบหน้าการศึกษาตำรับยามะเร็งของนายแสงชัย หรือหมอแสง แหเลิศตระกูล ว่า จากการเก็บตัวอย่างผู้ป่วย 1,062 คน ได้ผลมาแล้ว 566 คน พบเป็นคนไข้ใหม่ร้อยละ 70 ในจำนวนนี้ผู้ป่วยรู้สึกว่ามีผลตอบสนองที่ดีขึ้นร้อยละ 80 โดยอาการที่ดีขึ้นมี 3 ประการ คือ นอนหลับ มีแรง และรับประทานอาหารได้

ส่วนการลดขนาดของก้อนเนื้อยังไม่มีผลมายืนยันมากนัก คาดว่าในอนาคตทุกอย่างจะดีขึ้น นอกจากนี้ยังได้ทำวิจัยต่อใน 3 เรื่อง คือกลุ่มที่มาเป็นใคร โดยยึดผู้ป่วยเป็นหลัก ซึ่งที่พบคือร้อยละ 55 ของผู้มารับยาไม่ได้รักษาแล้ว แต่ที่น่าสังเกตคือในจำนวนนี้เกือบครึ่งผ่านการรักษากับแพทย์ แผนปัจจุบัน และหลายรายอาการอาจดีขึ้นหรือ คงที่ตรงนี้ต้องติดตามผลต่อไป ซึ่งอยู่ระหว่างรอผลการต้านมะเร็งในระดับทดลองจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ทั้งนี้จะทราบผลภาพรวมทั้งหมดของยามะเร็งหมอแสงภายในวันที่ 31 มี.ค.