ไม่พบผลการค้นหา
ชาวรัสเซียที่ถูกจับในไทยจากคดีเปิดคลาสสอนเซ็กซ์ในพัทยา ยืนยันว่าพร้อมที่จะเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯโดยรัสเซีย หากสหรัฐฯยอมให้สถานะผู้ลี้ภัยกับเธอ

เว็บไซต์ Khaosod English รายงานว่าได้สัมภาษณ์พิเศษนางสาวอนาสตาเชีย วาชูเควิช หรือนาสเตีย ริบกา หนึ่งในผู้ถูกจับกุมจากคดีที่นายอเล็กซานเดอร์ คิริลลอฟ หรืออเล็กซ์ เลสลี กูรูเซ็กซ์ชาวรัสเซียเปิดคลาสสอนเทคนิคการมีเพศสัมพันธ์ในโรงแรมหรูกลางเมืองพัทยา ยืนยันว่าเธอพร้อมจะเปิดเผยเบาะแสเกี่ยวกับการแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปี 2016 ของรัสเซีย หากทางการสหรัฐฯ สามารถช่วยไม่ให้เธอถูกส่งตัวกลับไปยังรัสเซียได้

วาชูเควิชเป็นหญิงบริการชั้นสูงที่กำลังตกเป็นข่าวอื้อฉาวในรัสเซีย เพราะเป็นผู้เปิดเผยข้อมูลการพบปะกันอย่างลับๆ ระหว่างนายเซอร์เก เอ็ดวาร์อิช ปรีคอดโค รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย ด้านนโยบายต่างประเทศ และนายโอเล็ก ดีริปาสกา มหาเศรษฐีเจ้าของธุรกิจอลูมิเนียม ที่ร่ำรวยติดอันดับ 23 ของรัสเซีย แต่ถูกรัฐบาลสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำในฐานะผู้เกี่ยวพันกับเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ 

การเปิดเผยข้อมูลการลอบพบกันระหว่างรองนายกฯ และนักธุรกิจที่มีประวัติสีเทาไม่ใช่ความตั้งใจของวาชูเควิช แต่เป็นผลจากการสอบสวนและรวบรวมข้อมูลของนายอเล็กเซีย นาวัลนี ผู้นำกลุ่มต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันและแกนนำฝ่ายต่อต้านรัฐบาลรัสเซีย ซึ่งสังเกตเห็นว่าเธอมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนายดีริปาสกา โดยสืบเบาะแสจากรูปและคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ในอินสตาแกรมของวาชูเควิช และนาวัลนีพบว่าเธอและดีริปาสกาพบกับปรีคอดโคบนเรือยอทช์ลำหนึ่งเมื่อเดือน ส.ค.2559 

นอกจากวาชูเควิช นายคิริลลอฟก็ยังยืนยันเช่นเดียวกันว่าพวกเขามีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการแทรกแซงการเลือกตั้ง เป็นเหตุให้ทางการรัสเซียต้องการตัวพวกเขากลับไปดำเนินคดีในประเทศ เพราะฉะนั้นทั้งคู่จึงหวังว่าทางการสหรัฐฯจะช่วยเหลือพวกเขาเพื่อแลกเปลี่ยนกับข้อมูลที่เป็นประโยชน์

ข่าวสดอิงลิช ยังรายงานอีกด้วยว่าผู้ต้องหาชาวรัสเซียทั้ง 10 คนถูกนำตัวขึ้นศาลจังหวัดพัทยาเพื่อรับฟังการพิจารณาฝากขังเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (27 กุมภาพันธ์) และถึงแม้พวกเขาจะได้รับการแจ้งว่าจะได้ประกันตัว แต่ศาลกลับอนุมัติการฝากขังผู้ต้องหาทั้งหมดต่อไป และทั้งหมดจะต้องถูกส่งตัวกลับไปยังรัสเซียเนื่องจากถูกเพิกถอนวีซาแล้ว โดยระหว่างการควบคุมผู้ต้องหากลับไปฝากขัง มีการรักษาความปลอดภัยแน่นหนาเป็นพิเศษ ใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจถึงกว่า 20 นาย และหลังจากถูกควบคุมตัวกลับมายังสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ผู้ต้องหาชาวรัสเซียก็พยายามส่งจดหมายขอความช่วยเหลือมายังบุคคลภายนอก แต่ถูกเจ้าหน้าที่สกัดกั้นไว้ ซึ่งข่าวสดได้จดหมายฉบับดังกล่าวมาแล้วและได้นำไปแปลจากภาษารัสเซียเป็นภาษาอังกฤษ

เนื้อหาในจดหมายระบุว่านายคิริลลอฟเป็นผู้ยื่นคำร้องถึงสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ในประเทศไทย เพื่อขอความช่วยเหลือด้านการลี้ภัย โดยระบุว่าตนและกลุ่มผู้ถูกจับกุม ซึ่งรวมถึง น.ส.ริบกา เป็นที่ต้องการตัวของทางการรัสเซีย สืบเนื่องจากการเผยแพร่รายงานของนายนาวัลนี และหากถูกส่งตัวกลับรัสเซียอาจได้รับอันตราย

อย่างไรก็ตาม สถานทูตรัสเซียประจำประเทศไทยไม่ได้ให้ความเห็นใดๆ กับกรณีนี้ ส่วนโฆษกสถานทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทยยืนยันเพียงว่าชาวรัสเซียสามารถร้องขอความช่วยเหลือได้ "ผ่านช่องทางที่เหมาะสม" 

ข่าวสดตั้งข้อสังเกตว่ามีความเป็นไปได้เช่นกันที่ผู้ต้องหาชาวรัสเซียจะอ้างว่ามีข้อมูลเพียงเพื่อเอาตัวรอด อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสงสัยว่าสื่อและทางการรัสเซียก็ให้ความสำคัญกับคดีนี้มากจนผิดสังเกต นอกจากนี้ทนายของผู้ต้องหายังยืนยันว่าโดยปกติไม่มีการเพิกถอนวีซานักท่องเที่ยวที่ละเมิดกฎหมายอย่างรวดเร็วเช่นกรณีนี้ 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:

การเมืองเบื้องหลังการจับกุม "สาวนักล่ามหาเศรษฐี"