ไม่พบผลการค้นหา
พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสงขลาออกหมายเรียกนายมุสตาร์ซีดีน วาบา แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมคัดค้านโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาร่วมกันทำร้ายเจ้าหน้าที่ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่สลายกลุ่มผู้ชุมนุมเมื่อวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา

จากกรณีที่มีการชุมนุมของเครือข่ายคนสงขลา-ปัตตานีไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหินในระหว่างทำกิจกรรม “เดินเทใจให้เทพา” เดินหานายก หยุดทำลายชุมชนเพื่อยื่นหนังสือให้กับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่เดินทางมาประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรนอกสถานที่ที่จังหวัดสงขลาระหว่างวันที่ 27 - 28 พฤศจิกายนและต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สลายการชุมนุมจนเกิดเหตุปะทะระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยได้จับแกนนำ 16 คนดำเนินคดีไปแล้วนั้น

ล่าสุด พ.ต.ท.ศุภกิจ ประจันตะเสน รักษาราชการแทน.รอง ผกก. สอบสวน สภ.เมืองสงขลา เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกแกนนำเพิ่มอีก 1 คนคือ นายมุสตาร์ซีดีน วาบา หรือ แบมุส เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหาในข้อหาร่วมกันทำร้ายเจ้าหน้าที่ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ โดยจากการรวบรวมพยานหลักฐานพบว่านายมุสตาร์ซีดีนมีส่วนร่วมในการชุมนุมกับกลุ่มแกนนำ 16 คนซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้และถูกปล่อยตัวในเวลาต่อมา

ขณะที่นายกฤษดา ขุนณรงค์ ทนายความและคณะทำงานด้านกฎหมายของกลุ่มแกนนำ 16 คน กล่าวว่า ทางนายมุสตาร์ซีดีนยังไม่ได้รับหมายเรียกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ คาดว่าพรุ่งนี้ (18 ธ.ค.) น่าจะได้รับหมายเรียก หากได้รับหมายเรียกก็รายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตามขั้นตอน

สำหรับความคืบหน้าในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา จ.สงขลานั้น ก่อนหน้านี้ทางรัฐบาลได้ชี้แจงผ่านทางเฟซบุ๊ก “ไทยคู่ฟ้า” เมื่อวันที่ 30 พ.ย. โดยระบุว่า รัฐบาลยังไม่ได้ตัดสินใจในเรื่องการสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานถ่านหินเทพาที่มีกำลังผลิต 2,200 เมกะวัตต์ โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของคณะกรรมการนโยบายพลังานแห่งชาติและจะพิจารณาอย่างรอบคอบ

เครดิตภาพ : fb/stopcoalsongkhla