นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี แถลงความคืบหน้าการประชุมร่วมกับกระทรวงการคลัง โดยเผยว่า แนวโน้มสถานการณ์เศรษฐกิจในช่วงไตรมาสที่ 1 และ 2 ของปีนี้ มีสัญญาณการอ่อนตัวลง มีปัจจัยหลักมาจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมือง
ด้านนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เสริมว่า อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาส 1 และ 2 ของปี 2562 อาจอยู่เพียงร้อยละ 3 ต้นๆ เท่านั้น คณะทำงานในปัจจุบันจึงมีความจำเป็นต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อไม่ปล่อยให้สถานการณ์แย่ลง
"ทำไว้รอรัฐบาลใหม่มารับช่วงต่อ แต่ไม่ได้ทำยาว แค่ช่วง 2-3 เดือนนี้ ไม่ผูกมัดรัฐบาลใหม่" นายอภิศักดิ์ กล่าว
มาตรการอุ้ม-กระตุ้น เศรษฐกิจ
สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะออกมานั้น จะใช้งบประมาณรวมราว 20,000 ล้านบาท ซึ่งเน้นไปที่ภาคการบริโภค โดยจะนำอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวขึ้นมาชูโรง เช่นการจัดให้มีโครงการท่องเที่ยวในเมืองรอง รวมถึงการลดหย่อนภาษีจากการท่องเที่ยวในทุกจังหวัดทั่วประเทศ
ขณะเดียวกันจะมีมาตรการลดหย่อนภาษีสำหรับการซื้อสินค้าหรืออุปกรณ์การเรียนเพื่อต้อนรับการเปิดภาคการศึกษาใหม่ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า นอกจากนี้กระทรวงการคลังยังพิจารณามาตรการลดหย่อนภาษีจากการซื้อหนังสือ โดยครั้งนี้จะขยายเวลาการครอบคลุมทั้งปี เพื่อเป็นการส่งเสริมคุณภาพของทรัพยกรมนุษย์
ด้านการลงทุน นายอภิศักดิ์ กล่าวว่า กระทรวงไม่ได้มีนโยบายส่งเสริมการลงทุนใหม่ แต่จะสนับสนุนการดำเนินเรื่องผ่านระบบออนไลน์ อาทิ การยื่นภาษีแบบออนไลน์ (E-tax Invoice)
ส่วนอสังหาริมทรัพย์นั้น กระทรวงการคลังชี้ว่า ปัจจุบันมีอุปสงค์ค่อนข้างมาก แต่ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งเพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยกู้ เนื่องมาจากคำเตือนของธนาคารแห่งประเทศไทย ทำให้อสังหาริมทรัพย์ไม่เติบโตมากนัก นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อาจใช้ธนาคารของรัฐมาแก้ปัญหาธนาคารพาณิชย์ปล่อยสินเชื่อแต่ยังไม่ได้มีการศึกษาอย่างจริงจัง