ไม่พบผลการค้นหา
เบอร์ลิน ปารีส และสเปน กลับมาใช้มาตรการที่เข้มงวดในการจำกัดการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชนอีกครั้งรวมถึงการล็อกดาวน์เมือง หลังจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

'เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี' กลับมาใช้มาตรการเคอร์ฟิวและจำกัดเวลาในการเข้าออกเคหสถาน รวมถึงการเปิดปิดร้านค้าต่างๆ อีกครั้ง หลังจากที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ทางการเมืองเบอร์ลินมีคำสั่งให้ร้านอาหาร บาร์ ร้านค้าท้องถิ่นและธุรกิจอื่นๆ สามารถให้บริการได้ถึงเวลา 23.00 น. และให้เปิดบริการอีกครั้งในเวลา 06.00 น. รวมไปถึงการห้ามขายแอลกอฮอลล์ทุกชนิดในช่วงเวลาเคอร์ฟิวด้วยเช่นกัน โดยมาตรการนี้จะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค.-31 ต.ค.ที่จะถึงนี้

นอกจากนี้ในช่วงเวลาเคอร์ฟิวตั้งแต่ 23.00 น.-06.00 น. รัฐบาลท้องถิ่นออกกฎจำกัดการรวมตัวได้ไม่เกิน 5 คนในเคหสถานและการนัดหมายในสวนสาธารณะก็ไม่ได้รับอนุญาตให้กระทำเช่นกัน ขณะที่ในช่วงนอกเวลาเคอร์ฟิว รัฐบาลท้องถิ่นมีคำสั่งห้ามประชาชนรวมตัวกันเกิน 10 คน ซึ่งลดลงจาก 25 คนในช่วงที่ผ่านมา

ทางการเบอร์ลินระบุว่า 4 เขตในเบอร์ลินถูกจัดอยู่ในพื้นที่เสี่ยงสูง ซึ่งหมายถึงมีการแพร่ระบาดของโควิดทุกๆ 50 รายต่อประชากร 100,000 รายภายในระยะเวลา 7 วัน

ด้าน 'กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส' ทางการท้องถิ่นมีคำสั่งปิดบาร์ทุกแห่งทั่วเมือง พร้อมยกระดับการเตือนภัยการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นระดับสุงสุด โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา

ขณะที่ร้านอาหารในปารีสยังคงอนุญาตให้เปิดบริการ แต่ต้องมีการเข้มงวดในเรื่องสุขอนามัยของสถานที่

ทางการปารีสระบุว่า ในปารีสพบกลุ่มคัสเตอร์ที่แพร่เชื้อโควิด-19 ถึง 203 ราย และในปารีสอัตราของผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 270 รายต่อประชากร 100,000 ราย และอาจถึง 500 รายต่อประชากร 100,000 ราย ซึ่งผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนอายุ 20-30 ปี และ 36% เป็นผู้ป่วยที่มีอาการวิกฤต

นับตั้งแต่ช่วงกลางเดือน ก.ย.ที่ผ่านมาจำนวนผู้ติดเชื้อในฝรั่งเศสเพิ่มขึ้นมากกว่าวันละ 10,000 ราย และเมื่อวันที่ 3 ต.ค.มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 16,000 รายทั่วประเทศ นับเป็นจำนวนที่มากที่สุดตั้งแต่มีการระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปี

ขณะที่ ประเทศสเปน ทางกรุงมาดริด เมืองหลวงของสเปน มีคำสั่งล็อกดาวน์เมืองอีกครั้งในช่วงสุดสัปดาห์ โดยมีมาตรการให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเมือง สามารถเดินทางออกไปยังพื้นที่ใกล้เคียงได้เมื่อจำเป็นเท่านั้น ขณะที่บาร์และร้านอาหารจะต้องเปิดให้บริการหลัง 20.00 น. และประชาชนไม่อนุญาตให้รวมตัวกันเกิน 6 คน

ปัจจุบันสเปนยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากที่สุดในยุโรปรองจากรัสเซีย โดยในสเปนมีผู้ติดเชื้อแล้ว 865,631 ราย

ที่ีมา BBC / The guardian /DW