ไม่พบผลการค้นหา
คณะทำงานคดีล่าสัตวป่าทุ่งใหญ่ เตรียมนัดประชุมหารือแนวทางการทำความเห็นแย้งอัยการภาค 7 ภายในสัปดาห์หน้า หลังจากมีคำสั่งไม่ฟ้อง 5 ข้อหานายเปรมชัย กรรณสูต

พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่าภายในสัปดาห์หน้า จะเรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เพื่อหารือแนวทางการทำความเห็นแย้ง กรณีที่อัยการภาค 7 มีความเห็นไม่สั่งฟ้อง นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) รวม 5 ข้อหาเช่น ร่วมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต นำเครื่องมือสำหรับใช้ในการล่าสัตว์ป่าเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันพยายามล่าสัตว์ป่า 

เบื้องต้น พล.ต.อ.ศรีวราห์ เปิดเผยว่าได้พูดคุยกับ พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ รอง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 แล้ว ยืนยันตำรวจเห็นแย้งทุกข้อหาที่ไม่สั่งฟ้อง  

ด้านนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด โพสต์เฟซบุ๊กอธิบายเหตุผลอัยการสั่งไม่ฟ้อง 5 ข้อหาในคดีล่าสัตว์ป่า ของนายเปรมชัย กรรณสูต โดยระบุว่า ข้อหาที่ 1 ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุผลที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง เพราะนายเปรมชัยได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนทั้ง 3 กระบอกตามกฎหมาย  ข้อหานี้เป็นไปตามที่ตำรวจเสนอเห็นควรสั่งไม่ฟ้องมาตั้งแต่ต้น

ข้อหาที่ 2 ร่วมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุผลที่อัยการสั่งไม่ฟ้องเนื่องจาก นายเปรมชัยได้รับอนุญาตจากหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าให้เข้าพื้นที่  ข้อหานี้ตามกฎหมายไม่ได้กำหนดโทษไว้ มีแต่โทษทางปกครอง คือให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่ สั่งให้บุคคลนั้น ๆ ออกจากสถานที่ เช่นเดียวกับข้อหาที่ 3 ร่วมกันมีเครื่องมือสำหรับการล่าสัตว์ป่า ที่มีการกำหนดโทษไว้ เช่น จำคุก ปรับ กักขัง หรือยึดทรัพย์สิน

ข้อหาที่ 4 ร่วมกันพยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เหตุผลที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง เพราะ ข้อเท็จจริงฟัง ได้เพียงแต่ว่า นายธานี ทุมมาศ ผู้ต้องหาที่ 4 เป็นคนพยายามล่าสัตว์ป่า และพยายามยิงสัตว์ นายเปรมชัย และผู้ต้องหาคนอื่นไม่ได้อยู่ในพื้นที่ขณะนั้น และได้มีการสั่งฟ้องความผิดล่าสัตว์ป่าไปแล้ว  

ส่วนสุดท้ายคือข้อหาที่ 5 ร่วมกันกระทำการทารุณสัตว์โดยไม่มีเหตุอันควร อัยการสั่งไม่ฟ้อง เพราะบทบัญญัติในพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ ไม่มีการกำหนดว่าสัตว์ในธรรมชาติชนิดใดบ้างเป็นสัตว์ตามความหมายของกฎหมาย ซึ่งข้อหานี้ตำรวจเสนอ ความเห็นควรสั่งไม่ฟ้องเช่นกัน 

ขณะนี้ พนักงานอัยการภาค 7 ส่งสำนวนคดีกลับไปให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พิจารณาแล้ว หากมีความเห็นแย้งก็จะต้องส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดเป็นผู้ชี้ขาดต่อไป 


อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง