ไม่พบผลการค้นหา
นายกสมาคมเวชศาสตร์ฉุกเฉิน แนะคนไทยพกยาไอเอสดีเอ็น อมใต้ลิ้น ช่วยป้องกันไม่ให้ซ้ำรอย “โจ บอยสเก๊าท์” หัวใจวายเฉียบพลัน

ศ.นพ.สันต์ หัตถีรัตน์ นายกสมาคมเวชศาสตร์ฉุกเฉิน ขอแสดงความเสียใจถึงกรณีการเสียชีวิตของ โจ บอยสเก๊าท์ หรือนายธนัท ฉิมท้วม ขณะแสดงคอนเสิร์ต และเสนอว่า ควรจะนำการสูญเสียครั้งนี้มาเป็นบทเรียนในการพัฒนา 

จากข่าวที่ระบุว่า ผู้เสียมีชีวิตมีน้ำตาลในเลือดสูงถึง 300 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรนั้น ตนมองว่า ผู้เสียชีวิตน่าจะเป็นจากอาการหัวใจวายเฉียบพลัน ส่วนน้ำตาลในเลือดที่สูงนั้นไม่ได้ทำให้คนตายได้ แต่จะเป็นสาเหตุที่ทำให้เส้นเลือดหัวใจตีบตัน 

ดังนั้น การช่วยเหลือ หากเราพบว่าผู้ป่วยมีอาการหยุดหายใจควรทำการปั๊มหัวใจ(CPR) ทันที และรีบเรียกหน่วยกู้ชีพฉุกเฉินทันที หรือโทรเบอร์1669 แต่กว่ารถฉุกเฉินจะมาต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5 นาทีขึ้นไป 

“การทำ CPR จึงเป็นหนทางที่ดีที่สุด เพราะฉะนั้นการสอนให้ประชาชนสามารถแจ้งเหตุเพื่อตามรถฉุกเฉินได้อย่างรวดเร็วและการช่วยฟื้นคืนชีพ หรือ CPR ระหว่างการรอรถฉุกเฉิน จะมีโอกาสเพิ่มความสำเร็จในการช่วยเหลือผู้ป่วย”

 นอกจากนี้ ในไทยพบว่าเกือบครึ่ง หรือร้อยละ 45 ของการเสียชีวิตเฉียบพลัน เกิดจากโรคหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งโรคนี้มักเกิดขึ้นทันทีแบบเฉียบพลัน

สันต์ หัตถีรัตน์.jpg


อย่างไรก็ตามสมาคมเวชศาสตร์ฉุกเฉินฯเคยแนะนำให้คนไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ป่วยที่มีเริ่มมีภาวะเส้นเลือดหัวใจตีบหรือหัวใจขาดเลือด ให้พกยาแก้อาการหัวใจขาดเลือด หรือยาไอเอสดีเอ็น(ISDN) ที่จะใช้อมไว้ใต้ลิ้น เมื่อเกิดอาการ แน่น จุกอก หายใจไม่ออก ก่อนที่จะหมดสติ หรือชัก ให้รีบอมยาไว้ใต้ลิ้นทันที ก็จะยิ่งทำให้มีโอกาสรอดชีวิตได้

ทั้งนี้ศ.นพ.สันต์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาสมาคมเวชศาสตร์ฉุกเฉินฯ ได้จัดทำโครงการส่งเสริมและ ป้องกันคนไทยไม่ให้เจ็บป่วยฉุกเฉินขึ้นมา เพื่อพยายามผลักดันให้เกิดเป็นหลักสูตรในกระทรวงศึกษาธิการเรื่อง ตั้งแต่การป้องกันและให้มีสุขภาพดี ไม่เจ็บป่วยฉุกเฉินด้วยสาเหตุที่ป้องกันได้ ตลอดจน สอนเรื่องการกู้ชีพฉุกเฉินขึ้น เพราะอยากให้เยาวชนไทยเติบโตเป็นผู้ใหญ่และผู้ที่มีอายุยืนยาวที่มีคุณภาพ และหากพบผู้ป่วยฉุกเฉิน ก็จะเป็นการเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตของผู้ป่วยได้เช่นกัน