ไม่พบผลการค้นหา
รอง ผบ.ตร. พร้อมคณะแถลงข่าวจับกุม 'พูล้า' สัญชาติลาว ก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์ยาย - หลาน ที่ จ.สมุทรปราการแล้วหลบหนี ชี้จับกุมได้เร็วจากความสำเร็จของตำรวจหลายหน่วย พร้อมเตือนประชาชนให้ตรวจสอบประตู - หน้าต่างป้องกันคนร้ายปีนเข้ามาชิงทรัพย์ หมั่นสอดส่องคนในชุมชนที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องยาเสพติด - มั่วสุมแจ้งให้ตำรวจท้องที่ทราบ

จากกรณีเหตุคนร้ายใช้อาวุธมีดชิงทรัพย์ปาดคอยายและหลานสาวเสียชีวิต เมื่อวันที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยเหตุเกิดที่ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ล่าสุด พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ภ.1 แถลงข่าวถึงการจับกุม ท้าวพูล้า หรือ พูล้า อายุ 22 ปี สัญชาติ สปป.ลาว ผู้ต้องหาใช้มีดปาดคอเพื่อชิงทรัพย์ โดยตำรวจได้เปลี่ยนแผนจากที่จะนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่เกิดเหตุ มาเป็นทำแผนจำลองเหตุการณ์ที่กองบังคับการแทน เนื่องจากหวั่นเกรงว่าญาติๆ และประชาชนที่โกรธแค้นจะเข้ามารุมประชาทัณฑ์ 

ท้าวพูล้า เล่าถึงพฤติการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุเสพยาบ้าเข้าไป 1 เม็ด ระหว่างนั้นเกิดคิดอยากได้เงินของยาย เพราะซื้อของที่ร้านยายอยู่บ่อย ๆ จึงเชื่อว่ายายน่าจะมีเงินเยอะ อีกทั้งยังเคยเห็นยายใส่สร้อยคอทองคำด้วย เวลาประมาณ 03.00 - 04.00 น.จึงแอบเข้าไปในบ้านของยาย เห็นแมวอยู่บนบ้านร้องเสียงดังจึงหยิบเอามีดทำครัวมาปาดคอแมวเพื่อทดลองมีดก่อน จากนั้นได้รื้อค้นหาทรัพย์สิน จนกระทั่งยายมาเจอเข้าจึงใช้มีดปาดคอยายจนยายล้มลง ระหว่างนั้นมีเด็กน้อยมาเห็นตนเอง จึงเอามีดทำครัวปาดคอเด็กต่ออีกจนเด็กล้ม แล้วก็เข้าไปรื้อทรัพย์สินในห้องนอน ก่อนจะใช้มืดปาดคอเด็กที่นอนอยู่จนเสียชีวิต หลังก่อเหตุได้นั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างไปมาลงที่บิ๊กซี พระประแดง และนั่งรถแท็กซี่มาลงที่สถานีขนส่งหมอชิต พร้อมทั้งจ้างรถทัวร์ไปลงที่ จ.ยโสธร และนำทองคำที่ได้ไปขายได้เงินมา 7,500 บาท จากนั้นเดินทางมายัง จ.มุกดาหาร นั่งสามล้อมมาริมแม่น้ำโขง บอกสามล้อว่าไม่มีบัตรอยากจะข้ามไปฝั่งลาว คนขับสามล้อคิดราคา 1,200 บาท และได้มาส่งที่ร้านขายของชำขายกับข้าว นั่งกินเบียร์หมดไป 6 ขวด กำลังรอเรือข้ามไปฝั่งแขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว ก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมเสียก่อน

ด้าน รอง ผบ.ตร. พร้อมคณะ ระบุถึงความสำเร็จการจับกุมผู้ก่อเหตุเกิดจากความร่วมมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายหน่วยทำให้จับกุมผู้ก่อเหตุได้รวดเร็ว คดีนี้ผู้ต้องหาเป็นบุคคลต่างด้าวอาศัยอยู่ในประเทศไทยโดยการอนุญาตสิ้นสุด (over stay) มีอาชีพรับจ้างรายวัน และมีประวัติการเสพยาเสพติด และลักทรัพย์มาก่อน คดีนี้ผู้ต้องหาปีนเข้าทางช่องลมที่เปิดโล่งไม่มีสิ่งป้องกัน จึงอยากฝากประชาสัมพันธ์พี่น้องประชาชน ตรวจสอบประตูหน้าต่างช่องทางเข้าบ้านต่างๆ ให้เรียบร้อยไม่เปิดโอกาสให้คนร้าย 

สำหรับครอบครัวที่มีคนแก่ชราและเด็กเล็ก ไม่ควรปล่อยให้อยู่อาศัยเพียงลำพัง ต้องมีผู้ใหญ่หรือผู้ชายเป็นคนดูแล สำหรับชุมชน หมู่บ้าน ให้หมั่นคอยสังเกตสอดส่องพฤติกรรมของบุคคลในชุมชน หากพบเห็นบุคคลที่มีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ ก้าวร้าว มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด มั่วสุม เก็บตัว หลบๆ ซ่อนๆ ให้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ทราบ เพื่อจะได้นำตัวมาทำประวัติไว้เป็นกลุ่มเสี่ยง หรือต้องดูแลกวดขันเป็นพิเศษ และในการรับคนงานต่างด้าวเข้าทำงานต้องตรวจสอบประวัติให้ดีหรือตรวจดูว่าประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือไม่ ประกอบกับคดีนี้ผู้ต้องหามีประวัติเคยก่อเหตุลักทรัพย์แต่ผู้เสียหายไม่ร้องทุกข์เอาเรื่องแต่อย่างใด ซึ่งมองข้ามไปคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ซึ่งทำให้ผู้ก่อเหตุได้ใจ ไม่เข็ดหลาบ ไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง กระทั่งได้มาก่อเหตุอีกในครั้งนี้