ไม่พบผลการค้นหา
รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุประชาชนมีสิทธิตั้งคำถาม ต้องการรวบอำนาจไว้กับตัวหรือไม่ เมื่อนายกฯ ลงพื้นที่ถี่ยิบเดือนละครั้ง

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต้องการลงพื้นที่ทั้ง 77 จังหวัด เพื่อรับฟังการแก้ไขปัญหาประชาชน กำหนดประชุมครม.สัญจรเดือนละ 1 ครั้ง และลงพื้นที่ 1 ครั้ง แต่ไม่ต้องการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ว่า การกระทำสำคัญกว่าคำพูด

“ประชาชนมีสิทธิ์ตั้งคำถาม ท่านลงพื้นที่ถี่ยิบ เดินสายหนักขนาดนี้เพื่อรับฟังการแก้ไขปัญหาประชาชนเท่านั้นจริงหรือ อยู่ที่ทำเนียบไม่มีกระบวนการหรือช่องทางในการรับฟังปัญหาประชาชนหรือ อยู่มา 4 ปี แทนที่จะกระจายอำนาจ ทำให้ท้องถิ่นเข้มแข็ง ท่านกลับรวบอำนาจมาไว้กับท่านหรือไม่ ทำไมเพิ่งคิด หรือมาลงพื้นที่หนักตอนนี้ ถ้าท่านมั่นใจในผลงาน ว่าสิ่งที่ทำมาประชาชนได้รับประโยชน์ ก็เลือกตั้งได้แล้ว ระยะเวลาที่ยาวนาน ไม่ใช่การการันตีว่าจะสามารถครองใจประชาชนได้”

นายอนุสรณ์ยังพูดเชื่อมโยงไปถึงผลการเลือกตั้งของประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ประชาชนนั้นมีคำตอบในใจเพียงแต่รอคูหาเปิดเท่านั้น

“รอเพียงคูหาเลือกตั้งเปิดและไม่มีใครมาชัตดาวน์ล้มการเลือกตั้ง คำตอบจากการตัดสินใจของประชาชนก็จะปรากฏชัด แทนที่จะเอาเวลาไปทำอีเว้นท์ทางการเมืองที่สิ้นเปลืองงบประมาณและเสียเวลาของประเทศหรือไม่ เอาเวลามาเตรียมการนำประเทศกลับสู่การปกครองในระบอบประชาธิปไตยสากลที่สมบูรณ์ ปลดล็อคพรรคการเมืองให้สามารถทำกิจกรรมทางการเมืองได้ รับสมัครสมาชิกใหม่ จัดประชุม รับฟังความเห็นเพื่อการกำหนดนโยบายที่ตอบโจทย์และตรงตามความต้องการของประชาชนจะดีกว่าหรือไม่”

นายอนุสรณ์ยังวิพากษืด้วยว่า แม้นายกฯ จะจัดรายการมา 4 ปี เป็นทีวีบังคับดู วิทยุบังคับฟัง แต่ก็ยังบ่นว่าประชาชนไม่เข้าใจ เป็นเรื่องต้องสำรวจตัวเองว่าทำไมประชาชนถึงไม่ดู

“ท่านต้องสำรวจตัวเอง เกิดจากคนไม่ดู หรือ ดูแต่ไม่เข้าใจหรือไม่ ดังนั้นวิธีการทำอีเว้นท์นำการเมือง ยึดครองพื้นที่สื่อมากๆอาจไม่ใช่แนวทางที่ถูกต้องและตอบโจทย์ประเทศ การที่ฝ่ายการเมืองไม่ยอมให้ดูด เพราะเขาประเมินแล้วว่าประชาชนไม่ได้ประโยชน์ ดังนั้นถ้ารอจนกว่าจะดูดให้หมดจนหนำใจแล้วค่อยเลือกตั้ง ท่านคิดว่ามันเป็นธรรมกับประชาชนหรือไม่”