นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ยืนยันว่า ได้ร่างแผนฟื้นฟูคืนสภาพสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศไว้แล้ว เหลือเพียงการรอความเห็นชอบและคำแนะนำ จาก พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ส่วนระยะเวลาและขั้นตอนการฟื้นฟู ยังไม่สามารถระบุได้ เพราะมีความเสียหายหลายจุด ทั้งการเจาะบาดาล การสร้างพื้นที่จอดเฮลิคอปเตอร์ การสำรวจ การเบี่ยงเบนทางน้ำ 

ส่วนการประกาศวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ให้เป็นอุทยานแห่งชาติหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับประชาชนในพื้นที่ จำเป็นต้องทำประชาพิจารณ์เพื่อสำรวจพื้นที่เพิ่มเติมและพิจารณาผลกระทบกับประชาชน ซึ่งไม่สามารถบอกกรอบระยะเวลาที่จัดเจนได้ แต่จะดำเนินการให้เร็วที่สุด

ด้านนายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดี กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช สรุปภารกิจการดำเนินงานในส่วนของกรมอุทยานฯ ว่าภารกิจของเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ คือ การเบี่ยงทางน้ำ การสำรวจโพรงถ้ำ และการขนอุปกรณ์ เพื่อสนับสนุนชุดปฏิบัติการภายในถ้ำ 

สำหรับการฟื้นฟูในระยะเร่งด่วน ได้ทำความสะอาดพื้นที่ รวมถึงการรื้อท่อที่ทำฝายเบี่ยงน้ำ ซึ่งภารกิจทั้งหมด จะสำเร็จลุล่วงไม่ได้ หากไม่ได้รับกำลังใจจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณฯ ทั้งยังพระราชทานโรงครัวและสนับสนุน อาหารมากกว่าวันละ 3 มื้อ เลี้ยงเจ้าหน้าที่กว่าวันละ 2,000 คน 

ทั้งนี้ ร่างแผนฟื้นฟูยังไม่สามารถระบุได้ว่า จะใช้งบประมาณจำนวนเท่าใด เพราะต้องประเมินความเสียหายตามหลักเกณฑ์ก่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• กรมอุทยานฯ เดินหน้าแผนฟื้นฟูวนอุทยานถ้ำหลวง เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่
• สมาชิก 'ทีมหมูป่า' ขอบคุณทุกฝ่ายช่วยเหลือออกจากถ้ำหลวงฯ
• 'ชาวนา' พื้นที่รับน้ำจากถ้ำหลวง หวังเยียวยามากกว่าไร่ละ 1,000