ไม่พบผลการค้นหา
ผลการสอบสวนภายในกรณีกองทัพเมียนมาใช้กำลังทำร้ายและละเมิดสิทธิชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่ จนทำให้ชาวโรฮิงญาต้องลี้ภัยเข้าไปยังบังกลาเทศกว่า 600,000 คน ปรากฎว่าไม่พบหลักฐานใดๆที่บ่งชี้ว่าทหารเมียนมาได้ทำร้าย เข่นฆ่า หรือข่มขืนชาวโรฮิงญา

กองทัพเมียนมาได้เปิดเผยผลการสอบสวนภายในกรณีที่กองทัพเมียนมาถูกกกล่าวหาว่าใช้กำลังกวาดล้างชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่ จนต้องลี้ภัยไปยังบังกลาเทศกว่า 600,000 คน ซึ่งผลการสอบสวนไม่พบว่ามีหลักฐานใดๆที่บ่งชี้ว่าทหารเมียนมาได้ใช้กำลังไปในทางที่ผิด โดยกองทัพเมียนมาได้เผยแพร่ผลการสอบสวนผ่านเฟซบุ๊กของกองทัพว่า กองทัพได้สัมภาษณ์ประชาชนตามหมู่บ้านต่างๆในรัฐยะไข่กว่า 3,000 คน ซึ่งให้การตรงกันว่า ทหารและตำรวจของเมียนมา ไม่ได้ยิงเข้าใส่ประชาชน, ไม่ได้ข่มขืนผู้หญิง, ไม่ได้ขโมยของมีค่า, ไม่ได้เผามัสยิดหรือหมู่บ้าน, ไม่ได้จับกุมหรือทำร้ายประชาชน แต่อย่างใด

กองทัพเมียนมาระบุในผลการสอบสวนว่าผู้ก่อการร้ายชาวเบงกาลี ซึ่งอาศัยปะปนอยู่ในกลุ่มชาวโรฮิงญา เป็นผู้ก่อเหตุความรุนแรงทั้งหมดในรัฐยะไข่ และที่ชาวโรฮิงญาลี้ภัยเข้าไปยังบังกลาเทศเพราะหวาดกลัวผู้ก่อการร้ายกลุ่มนี้

ด้านองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนวิพากษ์วิจารณ์ผลการสอบสวนครั้งนี้ว่าเป็นความพยายามปกปิดการกระทำผิดต่อมนุษยชาติที่น่าอับอาย ขณะที่นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯจะเดินทางเยือนเมียนมาในวันพรุ่งนี้ (15 พ.ย.) ซึ่งคาดว่าจะมีการหยิบยกประเด็นเรื่องนี้มาพูดคุยกับกองทัพเมียนมาด้วย

ภาพ: AP