ไม่พบผลการค้นหา
องอาจ คล้ามไพบูลย์ แถลงจุดยืนพรรคประชาธิปัตย์ คัดค้านการยกเลิกเลือกตั้งสข. มองกลไก 'ประชาคมเขต' ไม่ส่งเสริมระบอบประชาธิปไตย พร้อมเรียกร้องให้ตรวจสอบการเดินสายดูดอดีต ส.ส.เข้าพรรคพลังประชารัฐ ขัดกฎหมายพรรคการเมืองหรือไม่

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ ขอคัดค้านการยกเลิกเลือกตั้งสมาชิกสภาเขต เพราะเห็นว่าเป็นการปิดกั้นการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่น ซึ่งเป็นกระบวนการที่ไม่ส่งเสริมประชาธิปไตย และเห็นว่ากลไกของสมาชิกสภาเขต ได้ทำประโยชน์ มากว่า 30 ปี มีส่วนร่วมในการพัฒนาเขต นำปัญหาของประชาชนไปแก้ไข และตรวจสอบการทำงานของสำนักงานเขต เป็นการตัดโอกาสประชาชน ที่เคยมี สมาชิก สภาเขต ทำงานรับใช้ใกล้ชิดในพื้นที่

โดยนายองอาจเห็นว่า กลไกประชาคมเขตที่เข้ามาทดแทนสมาชิกสภาเขตนั้น ถอยหลังลงคลอง เพราะประชาคมเขตจะต้องทำงานเอาใจผู้อำนวยการเขต ในฐานะเป็นผู้แต่งตั้งเพื่อโอกาสกลับเข้ามาทำงานอีกครั้ง ที่สำคัญ จะทำให้ไม่มีกลไกลการตรวจสอบ โดยเฉพาะบุคคลที่แต่งตั้งตัวเองเข้ามาทำหน้าที่ 

รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ระบุด้วยว่าลักษณะของการรับฟังความคิดเห็น มีการชี้นำและมีเพียงช่องทางเดียวคือเว็บไซต์ จึงเรียกร้องให้กรุงเทพมหานครเปิดรับฟังความคิดเห็น อย่างทั่วถึงรอบด้าน และต้องสร้างบรรยากาศ บ้านเมืองให้เป็นประชาธิปไตย พร้อมยืนยัน นายอภิรักษ์ ยังเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งในขณะนี้ ได้ให้เวลากับการดำเนินธุรกิจส่วนตัว ส่วนอนาคตจะมีความชัดเจนในทางการเมืองอย่างไรต้องให้นายอภิรักษ์เป็นผู้ตัดสินใจ

ส่วนกรณีการดึงตัวนักการเมือง เพื่อไปร่วมงานพรรคพลังประชารัฐ และสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ระบุว่าบุคคลใดสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ถือเป็นสิทธิ์ แต่ว่าการดำเนินการควรทำด้วยความโปร่งใส เป็นไปตามบทบัญญัติทางกฎหมาย หากไม่สอดคล้อง กับกฎหมายและระบอบประชาธิปไตยก็จะกลายเป็นการสร้างปัญหา

ดังนั้นผู้มีอำนาจและบุคคลที่เคลื่อนไหวในขณะนี้ต้องระมัดระวัง ไม่ให้สังคมตั้งคำถามว่าความพยายามดังกล่าวเป็นการสร้างความได้เปรียบพรรคการเมืองอื่นหรือไม่ และในขณะนี้จำเป็นต้องเดินหน้าเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย สร้างบรรยากาศของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยเพื่อเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง 

ส่วนที่มีกระแสข่าวในการดึงตัวนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไปร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐนั้น นายองอาจยืนยันว่านายอภิรักษ์ยังคงเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งในขณะนี้ ได้ให้เวลากับการดำเนินธุรกิจส่วนตัว ส่วนอนาคตจะมีความชัดเจนในทางการเมืองอย่างไร ต้องให้นายอภิรักษ์เป็นผู้ตัดสินใจ

รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ระบุเพิ่มเติมว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องตรวจสอบว่าการเดินสายดึงนักการเมืองเข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ จะขัดมาตรา 30 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองหรือไม่ต้องไปดูรายละเอียดของกฎหมายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องนำไปพิจารณาตรวจสอบความชอบด้วยกฎหมาย 

สำหรับในทางสังคมเชื่อว่าประชาชนที่ติดตามและเห็นพฤติกรรมดังกล่าวว่าเป็นลักษณะของการสร้างความได้เปรียบทางการเมืองหรือไม่ และเชื่อมั่นว่าประชาชนจะใช้ดุลพินิจตัดสินใจในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

อ่านเพิ่มเติม