โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา กล่าวต่อผู้นำประเทศต่างๆ ที่เข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ครั้งที่ 73 ที่นครนิวยอร์กของสหรัฐฯ ว่าจีนกำลังพยายามแทรกแซงการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ ที่มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 6 พ.ย.นี้ โดยสื่อต่างประเทศหลายสำนักรายงานว่าทรัมป์ไม่ได้ชี้แจงรายละเอียดหรืออ้างอิงหลักฐานที่ทำให้เขากล่าวได้ว่าจีนกระทำการเช่นนั้นจริง เพียงแต่ยืนยันว่าจีนพยายามที่จะแทรกแซงการเมืองสหรัฐฯ เพราะไม่อยากให้เขาและพรรคพวกชนะการเลือกตั้ง
ทั้งนี้ ทรัมป์ได้กล่าวต่อที่ประชุม UNGA ว่า รัฐบาลของเขามุ่งมั่นจะไปให้ถึงเป้าหมายในการสร้างสันติภาพในอนาคต แต่น่าเสียใจที่จีนพยายามแทรกแซงการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นในเดือน พ.ย. เพื่อต่อต้านรัฐบาลของเขา โดยย้ำว่า สาเหตุที่จีนไม่อยากให้เขาและพรรคพวกชนะ เพราะเขาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรกที่กล้าท้าทายจีนเรื่องการค้า แต่เขามั่นใจว่าสหรัฐฯ กำลังจะชนะจีนในทุกระดับ
การกล่าวหาว่าจีนพยายามแทรกแซงการเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ ถูกรายงานผ่านสื่อครั้งแรกเมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา โดยผู้ให้ข้อมูลดังกล่าวรายแรก คือ 'จอห์น โบลตัน' ที่ปรึกษาสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ของรัฐบาลทรัมป์ ซึ่งให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์ของสหรัฐฯ ยืนยันว่า รัสเซีย อิหร่าน เกาหลีเหนือ และจีน มีแนวโน้มที่จะแทรกแซงการเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการเลือกตั้ง ส.ว.
ก่อนหน้านี้ สำนักงานสอบสวนกลาง หรือเอฟบีไอ ของสหรัฐฯ ตั้งคณะกรรมการสอบสวนและสรุปว่าในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปี 2559 มีกลุ่มคนหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลรัสเซียพยายามซื้อโฆษณาสื่อสังคมออนไลน์และเผยแพร่ข่าวปลอมเกี่ยวกับผู้สมัครชิงตำแหน่งรายอื่นๆ ส่งผลให้ทรัมป์ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งดังกล่าว
แม้จะมีการจับกุมและควบคุมตัวชาวรัสเซียจำนวนหนึ่งในฐานะผู้เกี่ยวข้องกับกรณีเหล่านี้ และมีการสอบสวนอดีตเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบการรณรงค์หาเสียงให้แก่ทรัมป์ในอดีต ทั้งยังมีรายงานว่าจาเร็ด คุชเนอร์ ลูกเขยของทรัมป์ เป็นผู้หนึ่งที่เคยพูดคุยกับเจ้าหน้าที่รัสเซียในช่วงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่ทรัมป์ยืนยันว่าข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง แต่เป็นความพยายามใส่ร้ายป้ายสีทางการเมืองที่พรรคฝ่ายค้านเดโมแครตพยายามทำลายชื่อเสียงของเขาและครอบครัว
ส่วนข้อกล่าวหาเรื่องจีนพยายามแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯ เกิดขึ้นหลังจากทรัมป์ประกาศนโยบายขึ้นภาษีนำเข้าจากจีน และจีนตอบโต้กลับด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เช่นกัน ทำให้หลายประเทศทั่วโลกเกรงว่าสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่ยืดเยื้อจะส่งผลกระทบต่อทั่วโลก