ไม่พบผลการค้นหา
พล.อ.ประวิตร ยันรัฐบาลไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชนกลุ่มค้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน แต่ทำตามกฎหมายปกติ ระบุเสียงส่วนใหญ่สนับสนุนให้ก่อสร้าง

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมสภากลาโหม ถึงกรณีคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ประกาศใช้ พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 ว่า เป็น พ.ร.บ.เดิมที่จะครบกำหนดในวันที่ 30 พ.ย. ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ อ.จะนะ เทพา นาทวี สะบ้าย้อย จ.สงขลา และ อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นการต่ออายุตามปกติ ไม่ใช่ประกาศขึ้นมาใหม่  

ส่วนการจับกุมแกนนำกลุ่มต่อต้านโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา ที่จ.สงขลา ระหว่างการประชุมครม.สัญจร ที่จ.สงขลา ว่า รัฐบาลไม่ได้ทำอะไร และไม่ได้เกี่ยวข้องกับการจับกุมดังกล่าว แต่เป็นเรื่องของตำรวจ ขณะนี้อยู่ระหว่างส่งตัวขึ้นศาล เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ซึ่งการแจ้งข้อหาไม่ได้นำ พระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 มาดำเนินการ แต่เป็นการดำเนินคดีในเรื่องการขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่และกีดขวางการจราจร ยืนยันว่าไม่ใช่การละเมิดสิทธิมนุษยชน แต่ความผิดทางกฎหมาย หากไม่ทำตามกฎหมายแล้วจะอยู่กันได้อย่างไร 

ทั้งนี้รัฐบาลเปิดทางให้มีการยืนหนังสือที่เป็นเอกสารแค่แผ่นเดียว แต่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ยินยอมและเคลื่อนขบวนเข้าใกล้ที่พักของนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นเรื่องไม่เหมาะสม อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามีกลุ่มการเมืองหนุนหลัง รัฐบาลและคสช.ไม่กังวลว่าจะทำให้เสียคะแนนนิยมในภาคใต้ และระบุว่ากลุ่มผู้ชุมชนคัดค้านเป็นกลุ่มคนส่วนน้อยที่คัดค้านโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน เพราะผลจากการทำประชาพิจารณ์พบว่าคนส่วนใหญ่เห็นด้วย ซึ่งก็เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย แต่จะเดินหน้าก่อสร้างหรือไม่ ก็ไม่ทราบยังไม่ถึงขั้นตอนดังกล่าว ยืนยันว่าหากสิ่งใดที่รัฐบาลทำได้ ก็จะทำ ถ้าทำไม่ได้ ก็ไม่ทำ และขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี