ไม่พบผลการค้นหา
รัสเซียถูกเปิดเผยว่าทิ้งระเบิดลงในย่านที่อยู่อาศัยในซีเรีย ส่งผลให้พลเรือนเสียชีวิตกว่า 50 ราย และเกือบครึ่งเป็นเด็ก ทำให้เกิดการตั้งคำถามถึงบทบาทของรัสเซียในการปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายในซีเรียว่ามีประสิทธิภาพพอหรือไม่

องค์การสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนซีเรีย หรือ SOHR ซึ่งมีฐานปฏิบัติการอยู่ในอังกฤษ เปิดเผยว่ากองทัพอากาศรัสเซียเพิ่งทิ้งระเบิดลงในย่านที่อยู่อาศัยในเมืองเดียร์อัลซูร์ หนึ่งในฐานที่มั่นสุดท้ายของกลุ่มก่อการร้าย IS ในซีเรีย ทำให้มีพลรือนเสียชีวิตถึง 53 ราย และในจำนวนนี้ อย่างน้อย 21 รายเป็นเด็ก โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (26 พฤศจิกายน) และ SOHR คาดว่ามีผู้เสียชีวิต 34 ราย แต่หลังจากเก็บกู้ร่างออกจากซากปรักหักพัง ทำให้พบว่ามีผู้เสียชีวิตมากกว่าที่ประเมิน

ก่อนหน้านี้ รัสเซียยืนยันว่าเครื่องบินทิ้งระเบิด 6 ลำได้ออกปฏิบัติการในเมืองเดียร์เอลซูร์ แต่ระบุว่าระเบิดถูกฐานที่มั่นของผู้ก่อการร้าย และสังหารสมาชิก IS ได้ โดยรัสเซียเป็นพันธมิตรหลักของรัฐบาลนายบาชาร์ อัล-อัสซาด ประธานาธิบดีซีเรีย และเข้าร่วมการปราบปราม IS อย่างจริงจัง ทำให้เกิดปัญหาตึงเครียดกับสหรัฐฯ และพันธมิตร ที่ส่งเครื่องบินเข��าทิ้งระเบิดในซีเรียเช่นเดียวกัน

ในสัปดาห์หน้า จะมีการเจรจาสันติภาพรอบใหม่ระหว่างรัฐบาลและฝ่ายต่อต้านในซีเรีย แต่ไม่มีแนวโน้มว่าการเจรจารอบนี้จะเป็นผล หลังจากหลายครั้งที่ผ่านมา การเจรจาล่มลงเนื่องจากสองฝ่ายไม่สามารถแสวงหาจุดยืนร่วมกันได้ โดยเฉพาะประเด็นสถานะของรัฐบาลนายอัล-อัสซาด ว่าจะเป็นอย่างไรหากเข้าสู่การเจรจา โดยรัสเซียไม่เห็นด้วยกับแนวทางของสหรัฐฯ ที่ให้ปลดรัฐบาลซีเรีย ตั้งรัฐบาลเปลี่ยนผ่าน เพราะเกรงว่าสุญญากาศที่เกิดขึ้นจะทำให้กลุ่ม IS รุกคืบในซีเรีย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

รัสเซียเคลื่อนเรือรบ หลังแถลงประณามสหรัฐฯ โจมตีซีเรีย

สหรัฐฯ ขู่โจมตีซีเรียรอบใหม่หากมีการใช้อาวุธเคมี

ยูเอ็นยืนยันมีการใช้แก๊สพิษจริงในซีเรีย