ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ชายชาวอังกฤษที่เข้ารับการบริการรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์คนหนึ่งถูกพบการติดเชื้อหนองในชนิดใหม่ที่รุนแรง ซึ่งการรักษาโรคหนองในด้วยยาปฏิชีวนะโรคหนองในที่ใช้อยู่ปัจจุบันไม่สามารถรักษาเชื้อชนิดใหม่นี้ได้

ตามรายงานของหน่วยงานสาธารณสุขของอังกฤษ กล่าวว่า ในการรักษาขั้นต้นนั้น จำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะถึง 2 ตัวด้วยกัน คือ azithromycin และ ceftriaxone และเคสนี้ถือเป็นเคสแรกของโลกที่มีการใช้ยาในระดับสูงเพื่อรักษาโรคหนองในเช่นนี้

ทั้งนี้จากการสอบประวัติผู้ป่วยรายนี้พบว่า เขาติดโรคหนองในชนิดนี้มาจากการมีเพศสัมพันธ์กับคู่ขาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ดร.เกวนดา ฮิวจ์ ที่ปรึกษาทางวิทยาศาสตร์และหัวหน้าหน่วยงานโรคกลายพันธุ์จากการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ ของสาธารณสุขอังกฤษกล่าวว่า ปัจจุบันกำลังติดตามการรักษาเชื้อหนองในด้วยการใช้ยาปฏิชีวนะแบบใหม่ทั้ง 2 ชนิดอยู่ และยังติดตามความเสี่ยงที่อาจจะเกิดการกลายพันธุ์หรือการแพร่เชื้อของโรคได้ ทั้งนี้ภายในเดือน เม.ย. จะเริ่มการทดสอบการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะอีกครั้งหนึ่ง

โรคหนองในชนิดใหม่นี้เกิดจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า Neisseria gonorrhoeae และการติดต่อของเชื้อนั้นเกิดจากการติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ การทำออรัลเซ็กส์ รวมไปถึงการมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก

ดร.ออลเวน วิลเลียน ประธานสมาคมโรคทางเพศสัมพันธ์และเฮชไอวีของอังกฤษ กล่าวกับบีบีซีว่า การเกิดโรคหนองในชนิดใหม่นี้สร้างความกังวลต่อการรักษาเป็นอย่างมาก และรวมไปถึงการพัฒนาตัวยาเพื่อรักษา

“เรามีความกังวลว่าปัญหาดังกล่าวจะยิ่งเลวร้าย เนื่องด้วยงบประมาณด้านสาธารณสุขที่ถูกปรับลดลง โดยเฉพาะการปิดคลินิกที่ให้บริการด้านสุขภาทางเพศสัมพันธ์”

องค์การอนามัยโลกWHO ประเมินว่า ในแต่ละปีมีประชากรกว่า 78 ล้านคนทั่วโลกที่ติดเชื้อหนองใน สำหรับประเทศไทย กรมควบคุมโรค รายงานว่าโรคหนองในเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่มีประชากรติดต่อกันมากที่สุด คือ มีอัตราผู้ป่วยสูงถึง15.8 คนต่อประชากรแสนคน