ไม่พบผลการค้นหา
เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ทักท้วง ม.44 ขยายเวลาแบ่งเขตเลือกตั้ง ชี้เลือกตั้งอาจมีปัญหาความโปร่งใส ล่วงอำนาจ กกต. ยื้อเวลาให้พรรคการเมืองเตรียมตัวเลือกตั้งน้อยที่สุด

นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ระบุกรณีที่มีคำสั่ง คสช. ให้ กกต.มีหน้าที่และอำนาจ ในการตรวจสอบ และเปลี่ยนแปลงการแบ่งเขตเลือกตั้ง และขยายกรอบเวลา การประกาศจัดทำเขตเลือกตั้ง โดยระบุว่า กกต.ได้ทำตามการกลั่นกรองจากประชาชนมาเรียบร้อยแล้ว มีเหตุผลใดต้องมาเปลี่ยนแปลงอีก การเลือกตั้งที่มีปัญหาเรื่องความโปร่งใสตั้งแต่แรก ย่อมส่งผลต่อการยอมรับของประชาชน ทำให้การเลือกตั้งมีข้อครหาว่ามีความไม่ชอบมาพากลตั้งแต่เริ่มต้น เนื่องจากประกาศฉบับดังกล่าวนี้ ทำให้พรรคการเมืองไม่สามารถที่จะเตรียมตัวอะไรได้ เนื่องจาก คสช. พยายามยื้อเวลาให้พรรคการเมืองมีเวลาเตรียมการสำหรับการเลือกตั้งน้อยที่สุด โดยการเลือกตั้งครั้งหน้าจะเป็นการแข่งขันกันระหว่างฝ่ายหนึ่งที่พร้อมที่สุด กับอีกฝ่ายที่ถูกเอาเปรียบและไม่มีข้อมูลอะไรเลย ดังนั้นจึงคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลยว่าคำสั่งฉบับนี้ก็เพื่อให้พรรคการเมืองมีความพร้อมน้อยที่สุด แล้วจะเป็นการเลือกตั้งที่ยุติธรรมได้อย่างไร

การเริ่มต้นด้วยการเลือกตั้งที่มีปัญหา โดยการล่วงเกินอำนาจขององค์กรอิสระของ กกต. ทั้งที่ กกต. ควรเป็นองค์กรที่อิสระและเป็นตัวของตัวเองตามอำนาจหน้าที่ ไม่ควรถูกครอบงำโดยใคร กกต.ควรเป็นองค์กรแห่งความหวังที่จะทำให้เกิดการเลือกตั้งที่เสรี บริสุทธิ์ ยุติธรรม แต่วันนี้ กกต. กลับทำตัวเป็นเหมือนกับไม้หลักปักขี้เลน 

"ที่ผ่านมารัฐบาลนี้ได้ส่งสัญญาณการเลือกตั้ง แต่ก็เปลี่ยนแปลงมานับครั้งไม่ถ้วน จนทำให้ขาดความน่าเชื่อถือ ผมคิดว่า รัฐบาลและ คสช อย่าได้กลัวพรรคการเมือง แต่ควรกลัวที่จะทำให้ประชาชนไม่สบายใจ ฝืนความรู้สึกของประชาชน เพราะเมื่อถึงวันที่ประชาชนมีสิทธิตัดสินใจในวันเลือกตั้ง ผลที่ออกมาจะน่ากลัวกว่ามาก เพราะการฝืนความรู้สึกของประชาชนเป็นสิ่งที่อันตราย และผลที่ตอบสนองจากการถูกกดดันนั้นจะรุนแรง ซึ่งผมไม่อยากเห็นสิ่งนั้นเกิดขึ้น"

ม.44 ยือเวลาแบ่งเขตเลือกตั้ง - สรรหาผู้สมัครถึงวันสมัครรับเลือกต้ัง

ด้าน เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 16 /2561 เรื่อง การดำเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ( เพิ่มเติม) โดยมีสาระสำคัญที่เกี่ยวข้องการที่ กกต. ยังไม่ประกาศแบ่งเขตเลือกตั้ง ซึ่งระบุว่าเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่พรรคการเมืองต่างๆ และอำนวยความสะดวกแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อแบ่งเขตเลือกตั้งให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเจตนารมณ์ดังกล่าว แต่เนื่องจากมีประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งและพรรคการเมืองต่าง ๆ ร้องเรียนจำนวนมากว่าการร่วมแสดงความคิดเห็นไม่หลากหลายครบถ้วนและการพิจารณาเสนอแนะจากระดับพื้นที่ขึ้นไปยัง กกต. ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเจตนารมณ์รวมทั้งการทำงานของ กกต.ก็เร่งรัดเข้ามา

ดังนั้นเพื่อให้การแบ่งเขตเป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่ขัดต่อกฎหมาย จึงสมควรผ่อนผัน และขยายเวลาให้กกต.ดำเนินการต่อไป

ตามหน้าที่และให้กำหนดระยะเวลาในการดำเนินการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งในการสมัครรับเลือกตั้งครั้งแรกให้ชัดเจนขึ้น เพื่อให้การจัดการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อยเป็นประโยชน์ในการปฏิรูปการเมือง ตลอดจนป้องกันการกระทำอันอาจเป็นการกระทบต่อความสงบเรียบร้อย ความมั่นคงของชาติ หรือราชการแผ่นดิน จึงให้ในกรณีที่ กกต. คสช. หรือรัฐบาล ได้รับข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการแบ่งเขตเลือกตั้งให้ กกต. มีหน้าที่และอำนาจตรวจสอบ หรือเปลี่ยนแปลงการพิจารณา หรือดำเนินการแบ่งเขตสำหรับการเลือกตั้งแบบแบ่งเขต หรือเลือกตั้งตามหมวด 3 การจัดการเลือกตั้งแห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และข้อ 7 ของคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 13/2561 ให้ได้ข้อยุติ หากเป็นกรณีเร่งด่วนจำเป็นที่ไม่อาจดำเนินการตามกฎหมาย ระเบียบ ประกาศหรือมีมติใด ๆ ของ กกต.ที่ออกไว้ให้ก็สามารถดำเนินการต่อไปได้โดยชอบด้วยกฎหมาย ให้เป็นไปตามมติของ กกต. ทั้งนี้ให้จัดทำและประกาศเขตเลือกตั้งให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มีผลใช้บังคับ 

ขณะเดียวกัน การพิจารณาหรือดำเนินการแบ่งเขตเลือกตั้งให้ถือเป็นการปฏิบัติที่ชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญและเป็นที่สุดเพื่อให้การดำเนินการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อยเป็นธรรมแก่พรรคการเมืองและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย รวมทั้งให้พรรคการเมืองสามารถสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 13/2561 ได้จนถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง ในกรณีที่เห็นสมควรนายกฯ อาจเสนอให้ คสช.แก้ไขเปลี่ยนแปลงคำสั่งนี้ได้และให้คำสั่งนี้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป