ไม่พบผลการค้นหา
เวียดนามเปิดสะพานสีทองพร้อมรูปปั้นมือขนาดใหญ่ในบานาฮิลล์ จนถูกตั้งฉายาว่า 'สะพานอุ้งหัตถ์พระเจ้า' กำลังเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม แต่ยังมี 'สะพานคนเดิน' อีกหลายแห่งทั่วโลกที่น่าสนใจ

เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา เวียดนามเปิดสะพานคนเดินแห่งใหม่ในบานาฮิลล์ ทางตะวันตกของเมืองดานัง ภาคกลางของเวียดนาม เป็นสะพานสีทอง ความยาวกว่า 150 เมตร อยู่สูงเหนือระดับน้ำทะเลราว 1,400 เมตร พร้อมจุดขายหลัก 'รูปปั้นมือขนาดใหญ่' รองรับสะพาน ทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางไปถ่ายรูปและทำกิจกรรมบนสะพาน เพราะมีคนให้คำนิยามว่าการเดินบนสะพานแห่งนี้ เหมือนกำลังเดินอยู่บน 'อุ้งหัตถ์พระเจ้า'

1. สะพานสีทอง (Cau Vang) หรือ 'สะพานอุ้งหัตถ์พระเจ้า' (ดานัง, เวียดนาม)

AFP-สะพานมือ-รูปปั้นมือ-สะพานเวียดนาม-บานาฮิลล์

ทางการเวียดนามระบุว่า การท่องเที่ยวทั่วประเทศกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยอ้างอิงผลสำรวจข้อมูลเมื่อปีที่แล้ว พบว่ามีชาวต่างชาติเยือนเวียดนามกว่า 13 ล้านคน โดยเฉพาะที่บานาฮิลล์ รวมกว่า 2.7 ล้านคน

แม้เวียดนามจะเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ แต่ก็เปิดกว้างรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เพราะต้องการผลักดันเศรษฐกิจของประเทศ ขณะที่นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเยือนเวียดนามมากสุด คือ กลุ่มชาวจีน

(ภาพ: AFP)

2. สะพานลอยฟ้าในสวนสาธารณะซาเรเดีย (มอสโก, รัสเซีย)

AFP-สะพานลอยฟ้ารัสเซีย

สะพานแห่งนี้เปิดตัวตั้งแต่ปีที่แล้ว ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วจากประชาชนและนักท่องเที่ยว รวมถึงผู้ที่เดินทางไปชมการแข่งขันฟุตบอลโลกที่รัสเซียเป็นเจ้าภาพช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค.ที่ผ่านมา โครงสร้างสะพานมีลักษณะเป็นวงโค้ง พร้อมชานกว้างสำหรับคนเดินหรือชมทิวทัศน์ ขณะที่รั้วกั้นเป็นกระจกใส ซึ่งให้ความรู้สึกคล้ายกับว่าสะพานลอยอยู่กลางอากาศ

สวนสาธารณะซาเรเดียอยู่ใจกลางกรุงมอสโก ไม่ไกลจากจัตุรัสแดง ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวและสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของรัสเซียอีกแห่งหนึ่ง 

(ภาพ: Maxim ZMEYEV / AFP)

3. ทาวเวอร์บริดจ์ (ลอนดอน, อังกฤษ)

AFP-ทาวเวอร์บริดจ์-ลอนดอน-Tower Bridge-London

ทาวเวอร์บริดจ์เป็นทั้งสะพานยกและสะพานแขวนเหนือแม่น้ำเทมส์ในกรุงลอนดอนของอังกฤษ ใช้เวลาก่อสร้างนาน 8 ปี ก่อนจะเปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อ ค.ศ. 1894 และใช้งานมาจนถึงปัจจุบัน มีทั้งส่วนที่เปิดให้ยานพาหนะสัญจรและเส้นทางสำหรับคนเดิน 

การเป็นสะพานเก่าแก่อายุกว่า 120 ปีในกรุงลอนดอน ทำให้ทาวเวอร์บริดจ์เป็นทั้งสัญลักษณ์ของกรุงลอนดอนและเป็นหมุดหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก มีผู้มาเยี่ยมชมสะพานมากกว่า 17 ล้านคนในแต่ละปี ทั้และมีจุดชมวิวทิวทัศน์และพิพิธภัณฑ์เปิดให้บริการแก่ผู้สนใจประวัติศาสตร์และเกร็ดความรู้ด้วย

(ภาพ: IAN KINGTON / AFP)

4. สะพานเฮลิกซ์ (สิงคโปร์)

unsplash-Helix Bridge-สะพานเฮลิกซ์-สิงคโปร์

สะพานเฮลิกซ์เป็นสะพานคนเดินความยาวกว่า 918 ฟุตที่เชื่อมต่อไปยังสะพานจูบิลีในมารีน่าเบย์ ไม่ไกลจากเมอร์ไลออนซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสิงคโปร์ นักท่องเที่ยวและประชาชนนิยมใช้สะพานแห่งนี้เป็นจุดชมเมืองยามกลางคืน รวมถึงเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ 

แม้ว่าสะพานแห่งนี้จะเพิ่งเปิดใช้งานเมื่อปี 2553 แต่ได้รับคำชมว่าเป็นสะพานที่ถูกออกแบบอย่างสร้างสรรค์ เพราะโครงสร้างสะพานเป็นเกลียวโค้งทำจากเหล็ก และได้รับแรงบันดาลใจจากดีเอ็นเอของมนุษย์ 

(ภาพ: Robynne on Unsplash)

5. สะพานแขวนท้องกระจกที่ยาวที่สุดในโลก (จางเจียเจี้ย, จีน)

AFP-สะพานกระจก-จางเจี้ยเจีย-จางเจียเจี้ย-หูหนาน-จีน

เมืองจางเจียเจี้ยในมณฑลหูหนานกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของจีน หลังจากเทือกเขาสูงในเมืองนี้ถูกใช้เป็นฉากถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Avatar และเมื่อเดือน ส.ค.2559 รัฐบาลท้องถิ่นได้ขยายโครงการดึงดูดนักท่องเท่ียวด้วยการเปิดตัวสะพานแขวนท้องกระจก ความยาว 430 เมตร สูงจากพื้นดิน 360 เมตร ทำให้สะพานแห่งนี้เป็นสะพานกระจกที่สูงที่สุดและยาวที่สุดในโลก และมีนักท่องเที่ยวเสียเงินค่าเข้าชมเป็นจำนวนมาก

เมื่อปีที่ผ่านมา มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอในสื่อสังคมออนไลน์หลายแห่ง ระบุว่าสะพานแขวนท้องกระจกในจางเจียเจี้ยเกิดชำรุดและถล่มลงมา แต่จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าสะพานที่พังทลายนั้นเป็นสะพานในเวียดนาม 

(ภาพ: FRED DUFOUR / AFP)

6. สะพานริมเขื่อนคาจู (อิสฟาฮาน, อิหร่าน)

https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/6/69/Khaju_Bridje_at_night.jpg/1024px-Khaju_Bridje_at_night.jpg

เมืองอิสฟาฮานเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของอิหร่าน และสะพานคาจูซึ่งเป็นทางเดินบนสันเขื่อนขนาดใหญ่ในเมืองแห่งนี้ก็เป็นสัญลักษณ์ที่ไม่ควรพลาด เพราะเป็นสะพานที่มีประวัติความเป็นมาอันเก่าแก่ยาวนาน ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 และได้รับการบูรณะซ่อมแซมอย่างต่อเนื่อง จึงยังมีสภาพสมบูรณ์ เปิดให้คนภายนอกเข้าชมได้

สิ่งที่เป็นจุดเด่นของสะพานคือสถาปัตยกรรมเก่าแก่ของอารยธรรมเปอร์เซีย ประตูเขื่อนถูกก่อสร้างเป็นรูปทรงโค้งประดับด้วยกระเบื้องสีสันลวดลายสวยงาม ทั้งยังมีประโยชน์ใช้สอยในด้านการเก็บกักและระบายน้ำในเขื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

7. สะพานเก่าแก่ 'สตารีมอสต์' (มอสตาร์, บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา)

AFP-Stari Most-สะพานโบราณเมืองมอสตาร์-บอสเนียเฮอร์เซโกวินา

สะพานสตารีมอสต์เป็นสะพานข้ามแม่น้ำนาเร็ตวา ในเมืองมอสตาร์ ประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวินา ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 16 มีความยาวประมาณ 30 เมตร และสูงเหนือน้ำราว 28 เมตร โดยสะพานถูกทำลายเสียหายบางส่วนเนื่องจากสงครามความขัดแย้งในแหลมบอลข่านเมื่อปี 2537 แต่ได้รับการบูรณะซ่อมแซมจนกลับมาใช้งานได้ตามปกติเมื่อปี 2547 

สะพานแห่งนี้เป็นสถานที่จัดประเพณีเก่าแก่ คือ การกระโดดจากสะพานลงไปในแม่น้ำนาเร็ตวา เพื่อทดสอบกำลังใจและความเข้มแข็งทางด้านร่างกายของหนุ่มๆ ชาวบอสเนียน โดยประเพณีกระโดดสะพานนี้จะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในเดือน ส.ค. ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3 วินาทีในการกระโดดจากสะพานลงไปยังแม่น้ำข้างล่าง

(ภาพ: ELVIS BARUKCIC/ AFP)

8. สะพานเชื่อมคลองมักเดบูร์ก (มักเดบูร์ก, เยอรมนี)

https://scontent-sit4-1.xx.fbcdn.net/v/t1.0-9/12108281_805763832912207_636256318575558627_n.jpg?_nc_cat=0&oh=cd3d167eb786f84f361cb8967a4941cb&oe=5C0EDF9E

สะพานเชื่อมคลองในเมืองมักเดบูร์กของเยอรมนี ถูกสร้างขึ้นเพื่อเชื่อมต่อแม่น้ำเอลเบอในภาคกลางของเยอรมนี ไปยังแม่น้ำฮาเวล ทางตะวันออกของกรุงเบอร์ลิน และสองฝั่งของสะพานเชื่อมคลองถูกสร้างเป็นทางเดินคอนกรีต เปิดให้คนเดินและเป็นจุดชมทิวทิศน์ตลอดระยะทางเกือบ 1 กิโลเมตร

สะพานแห่งนี้เป็นสะพานขนาบคลองที่ยาวที่สุดในโลก และเรือขนาดใหญ่สามารถสัญจรผ่านสะพานเชื่อมคลองแห่งนี้ได้อย่างสะดวกและง่ายดาย

(ภาพ: Architecture & Design)

ที่มา: The Guardian/ Popular Mechanics/ Telegraph

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: