ไม่พบผลการค้นหา
ผู้จัดการกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ เผยแนวทางการปรับลุค 'นิ้ง-โศภิดา กาญจนรินทร์' มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018 เน้นหน้าคมแบบเอเชีย แต่มีบุคลิกของ Empowered Women
อร ชิชญาสุ์ MUT.jpg

'ออน-ชิชญาสุ์ กรรณสูต' ผู้จัดการกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ เปิดเผยถึง จุดเด่นในตัวของ 'นิ้ง-โศภิดา กาญจนรินทร์' มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018 ที่จะสามารถนำมาปรับบุคลิก และรูปลักษณ์เพื่อเตรียมเข้าสู่การประกวดบนเวทีโลก 'มิสยูนิเวิร์ส 2018' นั่นคือ ความคิด แม้การตอบคำถามในวันตัดสินอาจจะตื่นเต้น แต่จากที่เธอได้สัมผัสกับนิ้งมาตลอดการประกวด มีการพูดคุย มีการเก็บคะแนน ดูภาพรวมทั้งหมดมาโดยตลอดถือว่าค่อนข้างดี นอกจากนี้ยังมี ความมุ่งมั่น นิ้งถือเป็นนักสู้คนหนึ่งเห็นได้จากประวัติของเขา รวมทั้งเรื่องภาษาก็ไม่เป็นห่วง แถมยังเป็นคนที่มีเสน่ห์ และมีสายตาที่สะกด ดึงดูดคนได้

แต่สิ่งที่ต้องฝึก คือ เรื่องบุคลิกภาพ เรื่องการแสดง ที่มีความจำเป็นต่อการสื่อสาร ด้วยความที่เป็นนักวิชาการมีความตั้งใจ ต่อสู้มาในเรื่องของการศึกษา แต่ประสบการณ์ในวงการนางงามยังมีน้อย จึงคิดว่าควรเน้นไปที่การพัฒนาการบริหารจัดการร่างกาย หรือจัดระเบียบร่างกายเพื่อสื่อสารด้วยแววตา และเรียนรู้การเข้าสังคมอีกแบบหนึ่ง จากที่ผ่านมานิ้งเป็นนักวิชาการ อยู่กับตัวเลข ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับสังคมที่กว้างมากขึ้น ต้องเป็นคนของประชาชน

อย่างไรก็ตาม นิ้งเป็นคนมีต้นทุน แม้อาจจะไม่ใช่คนที่สวยที่สุด แต่เขาพร้อมที่สุด และตอบโจทย์ของธีมการประกวดปีนี้ คือ Empowered Women คือคนที่เป็นพลังให้กับผู้หญิง เป็นคนที่พร้อมจะต่อสู้

นิ้ง โศภิดา.jpg

ส่วนเรื่องรูปร่างหน้าตา ผู้จัดการกองประกวดมองว่า นิ้งมีโครงหน้าที่ชัด มีโหนกแก้ม มีกราม คิดว่าจะทำทำให้ชัดมากขึ้น แบบค่อยๆพัฒนาไปเรื่อยๆ ไม่รีบแบบว่าต้องวันนี้พรุ่งนี้เขาจะสวยขึ้น

"ในเรื่องการปรับลุกส์บุคลิกภาพถ้าดีขึ้นแล้วจับแต่งตัว คือเสื้อผ้าก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด ในเรื่องสิ่งที่ยากในการพัฒนาเท่าที่ทำมา คือเรื่องของการพัฒนาความคิด ความรู้รอบตัว สิ่งที่ผ่านมา ประสบการณ์ชีวิตจากการที่เขามีโอกาสไปใช้ชีวิตที่ต่างแดนต่อสู้ชีวิตมาทุกรูปแบบคิดว่าคือสิ่งที่เป็นประโยชน์ เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายสำหรับลูกผู้หญิงคนไทยคนหนึ่งต้องประสบในต่างแดน”

อย่างไรก็ตาม การปรับลุกส์คงต้องให้มีความเป็นไทยในแบบของเขา ไม่ให้เขาสวยเหมือนใครที่หลายคนจินตนาการ เช่น ริโยะ โมริ นางงามจักรวาลคนที่ 2 ของญี่ปุ่น, หรือ คุราระ ชิบานะ มิสเจแปน 2006 เจ้าของรางวัลชัดประจำชาติ และรองอันดับ 1 มิสยูนิเวิร์ส 2006

"ตอนนี้ปล่อยผมตรงก็เป็นซิกเนเจอร์ของเขา แต่ต้องปรับลุกส์ให้เขาดูมีความหลากหลายมากขึ้น เพราะถ้าเป็นแบบที่เป็นอยู่ไปเรื่อยๆ อาจจะมีความน่าเบื่อ จืดชืด ไม่มีอะไรว้าว หรือเซอร์ไพรส์ สุดท้ายแล้วเชื่อว่าคนอยากเห็นความเปลี่ยนแปลง เห็นพัฒนาการของเขา”

MUT-นิ้งโศภิดา

เรื่องการพูด ควรต้องไปเรียนพูดแบบนักการทูต เพื่อพัฒนาให้พูดมีพลัง, และพูดให้มีชีวิตมากกว่านี้ ตอนนี้อาจจะติดความเป็นนักวิชาการ อยู่ในเซฟโซน ส่วนการเดิน และด้านอื่นๆก็ต้องทำไปพร้อมๆ กัน อย่างเรื่องออกกำลังกาย นิ้งเป็นคนมีวินัยอยู่แล้ว ออกกำลังกายวันละ 3-4 ชั่วโมง แถมยังยอมหยุดงาน 3 เดือน เพื่อเตรียมตัวประกวด แสดงให้เห็นว่าเป็นคนที่ทำอะไรตั้งใจจริงๆ

Miss Universe_Rata(4).jpg

ส่วนความคาดหวังในการประกวดมิสยูนิเวิร์สปีนี้ ชิชญาสุ์ ยอมรับว่าจริงๆ แล้วเป้าหมายมงกุฎที่ 3 ก็เป็นเป้าหมายสูงสุด ที่ทุกคนตั้งไว้ แต่จะไม่เคยพูดคำว่า "มงที่ 3" เพราะการตั้งเป้าไว้ตรงนั้น พอเขาไม่ได้ไปถึงจุดนั้น เขาจะกลับรู้สึกแบบผิดหวังกับตัวเอง และจะทำให้เรารู้สึกเสียใจ แต่ให้พยายามทำให้มันเกินความคาดหวังดีกว่าแล้วเขาจะภูมิใจ

"ถ้าเราไปกดเขาด้วยคำว่ามงที่ 3 สุดท้ายจริงๆ เป้าหมายที่เราอยากสร้างคน สร้างเวทีนี้ขึ้นมาเพื่อให้เขาได้เป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ เราเลือกคนที่มีคุณภาพ คนที่มีความรู้ เขาต้องสามารถถ่ายทอดสิ่งดีๆ ส่งต่อคนรุ่นหลังได้ ไม่อยากให้เขาทิ้งจุดนี้ไป ถ้าไปตั้งแค่ว่าคุณไปเพื่อไปคว้ามง แล้วคว้าไม่สำเร็จก็จะทำให้เกิดความผิดหวัง ต้องปลอบใจตัวเองกับความผิดหวัง แทนที่จะภูมิใจกับสิ่งที่แบบเราทำสุดความสามารถ ไม่ว่าจะได้ตำแหน่งอะไรต้องรู้สึกภูมิใจในฐานะตัวแทนประเทศไทย”