ไม่พบผลการค้นหา
สหรัฐฯ เปิดสถานีรถไฟใต้ดิน 'เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ คอร์ตแลนด์' ครั้งแรกในรอบ 17 ปี หลังสถานีถูกทำลายในเหตุก่อการร้าย 11 ก.ย.2544 พร้อมรื้อหลักฐานตรวจดีเอ็นเอระบุอัตลักษณ์ผู้เสียชีวิตเพิ่ม

สำนักงานขนส่งมวลชนมหานครนิวยอร์ก (MTA) เปิดให้บริการสถานีรถไฟใต้ดิน เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ คอร์ตแลนด์ หรือ WTC Cortlandt เมื่อวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา หลังจากสถานีรถไฟดังกล่าวและเส้นทางเชื่อมต่อถูกทำลายในเหตุวินาศกรรมอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2544 หรือเหตุการณ์ 9/11 โดยการเปิดสถานีรถไฟเกิดขึ้น 3 วันก่อนจะครบรอบปีที่ 17 ของโศกนาฏกรรมที่ร้ายแรงในยุคหลังสหัสวรรษของสหรัฐอเมริกา

โจเซฟ โลทา ผู้อำนวยการสำนักงาน MTA เปิดเผยว่า การเปิดสถานี WTC Cortlandt อีกครั้ง เป็นหลักชัยที่สำคัญของการฟื้นตัวและการเติบโตในย่านแมนฮัตตันของนครนิวยอร์ก เพราะที่แห่งนี้ไม่ได้เป็นแค่สถานีรถไฟใต้ดิน แต่เป็น 'สัญลักษณ์' แห่งความมุ่งมั่นในการฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่รอบอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ให้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้งอย่างค่อยเป็นค่อยไป 

งบประมาณทั้งหมดที่ใช้ในการก่อสร้างสถานี WTC Cortlandt แห่งใหม่ รวมถึงการบูรณะซ่อมแซมเส้นทางเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟทางตะวันตกของแมนฮัตตัน คิดเป็นเงินรวมกว่า 181 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และการบูรณะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการในปี 2558 แต่ประสบปัญหาการก่อสร้างล่าช้าไม่ทันกำหนด เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการชัตดาวน์สภาคองเกรสสหรัฐฯ ในอดีต 

AFP-ซับเวย์-รถไฟใต้ดินนิวยอร์ก-WTC Cortlandt

ส่วนบริเวณสถานีจะมีทั้งระบบระบายอากาศ ลิฟต์โดยสาร และทางลาดสำหรับผู้ที่ใช้รถเข็น ส่วนกำแพงสถานีมีผลงานศิลปะทำจากกระเบื้องโมเสกของ 'แอนน์ แฮมิลตัน' ประดับอยู่ โดยผลงานดังกล่าวเป็นการจารึกข้อความตอนหนึ่งในคำประกาศอิสรภาพของสหรัฐอเมริกาและปฏิญญาว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ

นอกจากนี้ สำนักงานชันสูตรแห่งนครนิวยอร์กเปิดเผยด้วยว่า เจ้าหน้าที่จะรื้อฟื้นกระบวนการตรวจสอบและระบุอัตลักษณ์ของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ 9/11 อีกครั้ง เนื่องจากเทคโนโลยีการตรวจดีเอ็นเอและเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ มีความรุดหน้าไปมากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา สำนักงานจะเริ่มตรวจสอบตัวอย่างดีเอ็นเอที่เก็บจากครอบครัวผู้สูญหายและผู้ที่ถูกสงสัยว่าเสียชีวิตทั้งหมดในเหตุการณ์ดังกล่าว โดยเปรียบเทียบกับหลักฐานที่เก็บได้จากที่เกิดเหตุ และหวังว่าจะช่วยระบุอัตลักษณ์ของผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมได้

การตรวจสอบดีเอ็นเอที่ผ่านมาสามารถระบุอัตลักษณ์ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ 9/11 ได้ทั้งหมด 1,642 ราย คิดเป็นละร้อยละ 60 ของจำนวนผู้สูญหายและผู้ที่ถูกสันนิษฐานว่าเสียชีวิตทั้งหมด 2,753 ราย

ที่มา: NPR/ Reuters

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: