นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุถึงความต้องการให้ คสช.ปลดล็อกการเมือง เพื่อให้พรรคการเมืองต่างๆดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้ ส่วนการอ้างข้อกฎหมายเกี่ยวกับเงื่อนเวลาปลดล็อกเดือน ก.ย. และการเลือกตั้งทั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาติ ตามที่ คสช.กำหนดไว้ ทุกฝ่ายก็ดำเนินการตามนั้นได้ แต่ต้องพิจารณาร่วมกัน ว่า จะให้กฎหมายเป็นเพียงพิธีกรรม หรือ เจตนารมณ์ เพราะถ้าเป็นเจตนารมณ์ต้องเปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วม ด้วยการเปิดพื้นที่การเมืองโดยเร็ว แต่ทั้งหมดอยู่ที่ คสช.
ส่วนกรณีกลุ่มสามมิตร ที่เดินสายทาบทามอดีตนักการเมืองไปร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐนั้น เป็นหน้าที่ของ กกต.ที่ต้องพิจารณาตามข้อกฎหมาย ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่กลุ่มสามมิตรจะสนับสนุนใคร แต่อยู่ที่การกระทำนั้นถูกหรือผิดกฎหมายหรือไม่ และกกต.ต้องมีและพิสูจน์ความเป็นอิสระของตัวเองให้ได้ เพราะองค์กรนี้มีบทบาทสำคัญในกระบวนการปฏิรูปที่ คสช.และสังคมเรียกร้องต้องการ โดยทุกฝ่ายต้องหนุนความเป็นอิสระของ กกต.รวมถึง คสช.ด้วย สำหรับการเลือกตั้ง ไม่ว่า กกต.ชุดเก่าหรือชุดใหม่ก็สามารถดำเนินการได้
ขณะที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวก่อนการประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)จะมีการพูดคุยเรื่องปลดล็อกหรือไม่ ว่า คลายล็อกไปแล้ว ซึ่งเรื่องปลดล็อกได้บอกไปแล้วว่าเดือน ก.ย. ให้นายกรัฐมนตรีพบกับพรรคการเมืองก่อน หลังจากนั้นจึงจะทราบ ส่วนการเลือกตั้งท้องถิ่นนั้น ตนยังไม่ทราบ
ส่วนกรณีพรรคเพื่อไทยยื่นหนังสือร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)เพื่อเอาผิดพรรคพลังประชารัฐ กลุ่มสามมิตร นายกฯและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายพรรคการเมือง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “พรรคยังไม่มี โยงมาเรื่องอะไร และดำเนินตามกฎหมายเรื่องอะไร ตนยังไม่ได้ทำอะไร และก็ไม่เห็นจะมีอะไร จะไปร้องก็ไปร้อง ร้องไป เพราะไม่ได้ทำอะไร”
เช่นเดียวกับนายวิษณ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดเรื่องดังกล่าวเพราะไม่ได้ดูและไม่ได้สนใจ
ด้านนาย มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) ปฏิเสธที่จะตอบคำถามดังกล่าวโดยระบุสั้นๆว่าไม่ได้ตามข่าวนี้จึงไม่ทราบว่าใครไปทำอะไรที่ไหนและไม่ทราบว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ทั้งยังปฏิเสธตอบคำถามถึงกรณีที่มีการดูดอดีตส.ส.มาร่วมพรรคโดยมีการเสนอเงินหรือผลประโยชน์ให้ทั้งทางตรงและทางอ้อม ว่าจะเข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายพรรคการเมืองหรือไม่ โดยระบุสั้นๆว่าไม่ทราบ